หนึ่งตำนานแข้งทองของ โรม่า ที่กูรูยกนิ้วเป็นเสียงเดียวกันว่าฝีเท้าเทียบขั้น บาติสตูต้า

อเบล บัลโบ กองหน้าทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่ว่ากันว่าฝีเท้าระดับเดียวกับ กาเบรียล บาติสตูต้า เพียงแต่เขาได้เป็นเพียงพระรองของ บาติสตูต้า เท่านั้น จึงทำให้ชื่อเสียงไม่โด่งดังซักเท่าไหร่ เขาเกิด 1 มิถุนายน 1966 เส้นทางบนนถนนลูกหนังของ อเบล บัลโบ นั้นไม่ได้แตกต่างจาก กาเบรียล บาติสตูต้า ตำนานยอดกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์เท่าใดนัก

ด้วยฉายา “เพชรฆาตในกรอบสี่เหลี่ยม” มันไม่ได้มากันง่ายๆ ความดุดันในการสังหารประตู คุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ในดีเอ็นเอฉบับศูนย์หน้าตัวเป้าจากดินแดนละตินอเมริกา แต่ทว่า ชื่อเสียงของ บัลโบ กลับถูกบาติสตูต้าปิดทับไปจนแทบสิ้น จนอาจเรียกได้ว่าฝีเท้า บัลโบ ตกอยู่ใต้ร่มเงาของ บาติสตูต้า เสมอมา

อเบล บัลโบ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรนีเวลล์ โอลด์ บอยส์ ในฟุตบอลลีกอาร์เจนติน่า ศูนย์หน้าวัย 21 ปี ยิงได้ 9 ประตู ในฤดูกาล 1987-88 จนถูก ริเวอร์เพลท คว้าตัวไปร่วมทีมในฤดูกาลถัดมา บัลโบ มาถึง ริเวอร์เพลท ก่อน บาติโกล หนึ่งฤดูกาล เขายิง 12 ประตู จาก 38 เกม ซึ่งมากกว่า บาติสตูต้า ที่ย้ายตามหลังมาแต่กลับยิงได้แค่ 3 ประตู จาก 19 เกม ให้กับ ริเวอร์เพลท ในฤดูกาล 1989-1990

บัลโบ เล่นให้ ริเวอร์เพลท เพียงฤดูกาลเดียว จากนั้นเขาโยกย้ายมายังลีกฟุตบอลยุโรปโดยมีสโมสร อูดิเนเซ่ ในอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางต่อจากนั้น บัลโบ เริ่มต้นสร้างชื่อเป็นตำนานดาวยิงของ อูดิเนเซ่ โดยในฤดูกาล 1990-91 บัลโบ คว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดลีก เซเรีย บี ที่จำนวน 22 ประตู และสามารถพาสโมสรเลื่อนชั้นขึ้นสู่เวทีกัลโช่ เซเรีย อา ได้สำเร็จในฤดูกาล 1991-92 ทว่าฤดูกาล 1992-93 อูดิเนเซ่ รอดตกชั้นอย่างหวุดหวิด โดย อเบล บัลโบ ยิงให้ทีมถึง 21 ประตู เป็นครึ่งหนึ่งที่ทีมยิงได้รวมทั้งฤดูกาลที่ 42 ประตู

บัลโบ ผ่าน 4 ฤดูกาล ในถิ่น ฟริอูลี่ สเตเดี้ยม ด้วยการลงสนาม 144 เกม ยิงถึง 70 ประตู ซึ่งกองหน้าตัวเป้าที่มีสายตาเช่นนักล่าตาข่าย ความเจนจัดในการสังหารเหยื่อทุกรายในกรอบสี่เหลี่ยม ยิงหนัก เด่นในลูกกลางอากาศ เฉกเช่นเดียวกับ บาติโกล ที่ย้ายตามมายังอิตาลีโดยอยู่ที่ ฟิออเรนติน่าในภายหลัง

ฤดูกาลถัดมา โรม่า คว้าตัว บัลโบ ไปร่วมทีม แม้วันเวลาต่อมา โรม่า จะไร้ความสำเร็จ แต่ บัลโบ สามารถตอบแทนสโมสร หมาป่ากรุงโรม ได้อย่างน่าพอใจ ด้วยการลงสนาม 167 เกม ยิงได้ 87 ประตู แม้ว่าตัวเขาเองชื่อเสียงไม่โด่งดังเท่าแข้งระดับโลกรายอื่นๆ แต่ผลงานจากฝีเท้าจัดอยู่ในระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว จนกูรูหลายคนมองว่าฝีเท้าของเขาเทียบได้กับ บาติโกล เป๊ะ

แต่ด้วยการได้เล่นเป็นพระรองของ บาติสตูต้า ทั้งในนามทีมชาติและเวทีเซเรีย อา กับโรม่า จึงทำให้ชื่อเสียงของเขาถูกบดบังรัศมีมาโดยตลอดนั่นเอง หลังจากนั้น บัลโบ ย้ายมา ปาร์ม่า ในปี 1998 เขาอยู่กับสโมสรนี้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น โดยมีส่วนช่วยให้ จัลโล่บลูส์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งถ้วยโกปา อิตาเลีย และ ยูฟ่า คัพ

ฤดูกาล 1999-2000 บัลโบ ย้ายมาร่วมงานกับ บาติสตูต้า ที่ ฟิออเรนติน่า ลงสนามเป็นเพียงสำรองของเพื่อนร่วมทีมชาติ ลงเล่นไป 19 เกม ยิงไป 3 ประตู ก่อนที่ทั้งคู่จะควงคู่ย้ายมาที่ อาเอส โรม่า ในปี 2000 และ บัลโบ แทบไม่มีส่วนร่วมกับทีมซักเท่าไหร่ ทั้งฤดูกาลที่นี่ได้ลงไปเพียงสามเกมเท่านั้น เป็นแค่สำรองของทีมบวกกับสภาพร่างกายที่เจ็บออดๆแอดๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากโลดแล่นในฝั่งยุโรปจนอิ่มหนำสำราญมาพักใหญ่ บัลโบ ตัดสินใจย้ายกลับ อาร์เจนติน่า โดยมี โบคา จูเนียร์ส เป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพ เขาลงเล่นเพียง 4 เกม และฝืนสังขารไม่ไหวเพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรังก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2003 รวมเกมที่ลงสนามทั้งชีวิตมากกว่า 400 เกม และยิงไปถึงเกือบ 200 ประตู

อเบล บัลโบ เป็นหนึ่งในกองหน้าตัวเป้าที่แฟนบอลของ อูดิเนเซ่ และ โรม่า ต่างบันทึกไว้ในความทรงจำ สัญชาตญาณกองหน้าตัวเป้าของแท้ แม้แฟนบอลส่วนใหญ่ต่างนึกถึงแต่ กาเบียล บาติสตูต้า เป็นชื่อแรกหากพูดถึงศูนย์หน้าจากอาร์เจนไตน์บนแผ่นดินอิตาลี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาก็คือหนึ่งในผู้ปิดทองหลังพระที่ยกระดับฟุตบอล เซเรีย อา โด่งดังมาถึงปัจจุบันนี้

เกียรติประวัติ
นีเวลล์ โอลด์ บอยส์
อาร์เจนตินา พรีเมียรร่า ดีวิชั่น : 1987–88
ปาร์ม่า
โคปปา อิตาเลีย: 1998–99
ยูฟ่าคัพ: 1998–99
อาเอส โรม่า
เซเรีย อา: 2000–01
ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า: 2001
ทีมชาติ อาร์เจนติน่า
ฟุตบอลโลก : รองแชมป์ 1990
โคปาอเมริกา : อันดับสาม 1989
ส่วนตัว
ผู้ทำประตูสูงสุด (ดาวซัลโว)เซเรีย บี : 1990–91