มาถึงระดับตำนานกองหน้า ของทีมชาติอังกฤษอีกหนึ่งราย อย่าง อลัน เชียร์เรอร์ กองหน้าจอมถล่มประตูในยุค 90 ที่เป็นหนึ่งในแข้งที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งบนเกาะอังกฤษ และยังคงเป็นดาวซัลโวสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ที่ผ่านมาเขาจะไม่ได้ถือว่าอยู่ในทีมระดับบิ้กเนมอย่างแข้งรายอื่นๆ แต่เขาก็ยังสามารถรักษาระดับฝีเท้าได้อย่างลงตัวจนกูรูหลายสำนักยกให้เขาเป็นดาวยิ่งตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
อลัน เชียร์เรอร์ เกิดวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1970 ในเมืองนิวคาสเซิ่ล ย่านกอสฟอร์ธ ที่อยู่ในครอบครัวฐานะปานกลาง เขาเริ่มให้ความสนใจกับเกมฟุตบอลตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น แต่ทว่าเขากลับไปเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลจริงๆจังๆกับอะคาเดมี่ของทีม เซาแธมป์ตัน แทนที่จะเป็นนิวคาสเซิ่ล โดย”สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาด้วยเพราะในตอนนั้น เชียร์เรอร์ ฝีเท้ายังไม่ส่องสว่างจนถึงขั้นน่าจับตา เชียร์เรอร์ ยังถูกปฏิเสธจาก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, ซันเดอร์แลนด์ และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ อีกด้วย แต่กับ เซาแธมป์ตัน พวกเขาเห็นต่าง ดึงเชียร์เรอร์มาร่วมงาน และเขาก็ไม่ทำให้สโมสรที่ไว้วางใจเขาผิดหวัง เขาสามารถสร้างชื่อได้ตั้งแต่นักแรกที่ลงสนามทันที ด้วยการยิงแฮตทริกให้กับทีม
เขาย้ายไปแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยค่าตัว 3.2 ล้านปอนด์ ในฤดูกาลที่สองของสโมสร เขายิงได้ 31 ประตูจากการลงเล่น 40 นัด และช่วยให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของพวกเขาในปี 1995 ซึ่งเป็นแชมป์แรกและแชมป์เดียวในชีวิตการค้าแข้งของ อลัน เชียร์เรอร์
ในครั้งนั้น และทำให้เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีในปีนั้นด้วย หลังจากเขาพาทีม กุหลาบไฟ คว้าแชมป์มาครองได้ เขายกระดับให้กับทีมเล็กๆของเกาะอังกฤษจนเป็นที่ติดหูของแฟนบอล มาจนถึงปัจจุบันนี้ ในศึกยูโร 1996 เป็นผลงานที่ดีที่สุดของ เชียร์เรอร์ ในการแข่งขันระดับนานาชาติ เขาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของ ยูฟ่า และเขาได้ถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่อยู่ในทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์นี้อีกด้วยเช่นกัน เขาได้ยึดตำแหน่งของเขาให้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ช็อคแฟนบอล กุหลาบไฟ แม้ว่า เชียร์เรอร์ พึ่งต่อสัญญาใหม่กับแบล็กเบิร์นไปหมาดๆ และออกมาประกาศว่าเขาจะยังไม่ย้ายไปไหน แต่ไม่ทันไร เขาก็กลายเป็นศูนย์กลางของสื่ออีกครั้ง ในช่วงปรี-ซีซั่น ของปี 1996 ไม่ใช่เพราะทำลายสถิติการพังประตู แต่เพราะเขากำลังจะก้าวออกจากอีวู้ด ปาร์ก ในฐานะนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังระเบิดฟอร์มเป็นดาวซัลโว ยูโร 96 เชียเรอร์ได้ถูกจัดให้เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก อยู่ในรายการช็อปปิ้งของทีมระดับสุดยอด ไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า ยูเวนตุส แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ทีมที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เล็กๆ อย่าง นิวคาสเซิล แต่มีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่จะได้ลายเซ็นของเขาไป และเชียเรอร์ก็เลือกทำในสิ่งที่ช็อกโลกฟุตบอล เขาปฏิเสธข้อเสนอของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และทีมใหญ่ทั้งหมดด้วย
และในที่สุด เชียเรอร์ เติมฝันให้เต็มด้วยการเล่นให้ทีมที่เขารักอย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมบ้านเกิดของเขา โดยซื้อ เชียเรอร์ เข้ามาอยู่กับทีม 15 ล้านปอนด์ แต่ในปีแรกเขายังช่วยทีมได้ไม่เยอะเท่าไหร่เพราะอยู่ในช่วงการปรับตัวเข้ากับทีม อย่างไรก็ตาม การที่มาอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล มันเป็นอะไรที่ไม่ดูสวยหรูซักเท่าไหร่ เขาหยุดชะงักในการลงสนามเพราะด้วยอาการบาดเจ็บ แถมฟุตบอลโลกปี 1998 ไม่ประสบความสำเร็จสำหรับอังกฤษและเชียร์เรอร์ทำได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาสามารถทำประตูได้ดีในฤดูกาล 1998-99 กับสาลิกาดง
เชียร์เรอร์ ลาทีมชาติหลังจบยูโรคัพ 2000 ในผลงานที่น่าผิดหวังอีกครั้งจากทั้งทีมอังกฤษทำให้พวกเขาตกรอบในรอบแบ่งกลุ่ม และอลัน เชียร์เรอร์ ทำได้เพียงประตูเดียวให้กับชื่อของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ อลัน เชียร์เรอร์ ประกาสลาออกจากทีมชาติหลังจบทัวร์นาเมนต์ แต่เขายังคงเดินหน้าทำผลงานกับต้นสังกัดนิวคาสเซิ่ลเรื่อยมา แต่เมื่อเขาปรับตัวเข้ากับทีมได้ เชียร์เรอร์ ก็สร้างชื่อขึ้นมาอีกครั้ง หลังกดประตูช่วยสาลิกาดงเป็นว่าเล่น เขาอยู่กับนิวคาสเซิ่ลเป็นทีมสุดท้ายในอาชีพนักเตะ จนเป็นที่รักและตำนานของทีมในการลงวาดลวดลายนับได้มากถึง 10 ปี ในสโมสรสุดท้ายนี้ ซึ่งกับสโมสร นิวคาสเซิ่ล เขาลงสนามไปทั้งหมด 404 แมตซ์ ยิงไป 206 ลูก เป็นผู้ทำประตูสูงสุดบนเกาะอังกฤษ และหากรวมทั้งสิ้นในทุกสโมสรที่ค้าแข้ง นับรวมได้ 441 นัด 260 ประตู 64 แอสซิสต์
เกียรติยศของเขา
-ได้แชมป์พรีเมียร์ร่วมกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในปี 1994-95
-รองเท้าทองคำ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ
-ทีมแชมป์ยูฟ่ายุโรปของทัวร์นาเมนต์: 1996
-นักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า 1996
-รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก 1994–95, 1995–96, 1996–97
-ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ 1994–95, 1996–97
-นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 1994–95
-หอเกียรติยศฟุตบอลอังกฤษ(ฮอล อ็อฟ เฟรม) 2004
credit : https://www.sports-nova.com/
images credit : https://www.bluetigerdems.com/
images credit : https://www.givemesport.com/
images credit : https://www.chroniclelive.co.uk/
