อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้าร่างเล็ก หนึ่งในผู้เล่นที่เคยได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในแมนฯยู

อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้าร่างเล็ก เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวชิลี เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ปี 1988 ที่เมือง โตโกปิยา ประเทศชิลี เขาเป็นปีกแต่สามารถเล่นตำแหน่งกองหน้าและตำแหน่งปีกได้เช่นกัน เขาเล่นให้กับหลายสโมสรทั้งสเปน, อังกฤษและทีมชาติชิลี เป็นส่วนใหญ่ เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างยากจน มีที่พักอาศัยอยู่ใน เมืองโตโกปิยา ซึ่งในวัยเด็กของ อเล็กซิส ไม่ค่อยได้ทำอะไรตามใจที่ตัวเองต้องการได้มากนักเพราะต้องหาเลี้ยงชีพตั้งแต่เด็กๆไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ

อเล็กซิส เป็นเด็กที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่เคยสมหวังในการได้รับรองเท้าสตั๊ดเลย จนกระทั่งมีนายกเทศมนตรีของเมืองโตโกปิยาได้มีโอกาสมามอบรองเท้าสตั๊ดให้ถึงบ้านด้วยตัวเอง ทำให้เจ้าตัวรู้สึกดีใจสุดๆ เพราะมันเป็นเหมือนของวิเศษสำหรับเขาในตอนนั้น อเล็กซิส ได้เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลระรับเยาวชนของ โกเบรโลอา สโมสรในชิลี และหลังจากนั้นได้ย้ายมาสร้างชื่อเสียงให้กับ ทีมฟุตบอล อูดิเนเซ่ ทีมดังของ เวทีเซเรีย อา อิตาลี ช่วงระหว่างปี 2006–2011 เขาทำผลงานได้ดีเด่นจนไปเตะตาแมวมองของ บาร์เซโลน่า

ต่อมาได้ย้ายไปเล่นให้กับ สโมสรบาร์เซโลน่า ในลาลีกา ประเทศสเปน ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 26 ล้านยูโร และถือเป็นผู้เล่นชาวชิลีคนแรกที่ได้ร่วมทัพสโมสร บาร์เซโลน่า แม้ว่า อเล็กซิสจะเข้ากับสไตล์บอลของบาร์ซ่าได้มากนัก เนื่องจากอาการบาดเจ็บในฤดูกาลแรก แต่เขากลับมาแข็งแกร่งในฤดูกาลถัดไปด้วยประตูแรกในเกมพบเบนฟิกาในเกมเยือนชนะ 0–2 แม้เขาจะทำประตูให้กับทีมได้ไม่เยอะ แต่ในนัดสำคัญๆเขาพังประตูช่วยทีมได้เสมอ อีกทั้งที่ฮือฮามากที่สุดเห็นจะเป็นช่วงที่ อเล็กซิส ยิงแฮตทริกแรกให้บาร์ซาในเกมพบเอลเช่ และชนะ 4-0 เขามีฤดูกาลที่น่าทึ่งในปี 2013-14 โดยยิงได้ 21 ประตูในทุกรายการ






หลังจากช่วงเวลาอันโดดเด่นกับ บาร์เซโลนาอเล็กซิส เข้าร่วมสโมสรอาร์เซน่อลในอังกฤษด้วยค่าตัวที่แพง 31.7 ล้านปอนด์ ในครั้งนั้น โดย อาร์แซน เวงเกอร์ ควบคุมทีมอยู่ ในปี 2014 และเขาได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียว เป็นค่าเหนื่อยเพดานบนของทีมอาร์เซน่อลเลยก็ว่าได้ อเล็กซิส สามารถยิงประตูแรกให้กับทีมอาร์เซนอลได้ในช่วงทดเวลาพิเศษของครึ่งแรก ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกซึ่งเป็นรอบที่ 2 โดยที่ทีม อาร์เซน่อลสามารถเฉือนเอาชนะทีม เบซิคตัส จากตุรกีไปได้ 1-0 ณ สนามเอมิเรตส์สเตเดี้ยม ซึ่งลูกยิงของ อเล็กซิส ทำให้ทีมได้เข้าไปเล่นต่อในรอบถัดไป ในประตูที่สองของเขาเกิดขึ้นในเกมลีกพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นเจ้าถิ่น ซึ่ง อเล็กซิส ก็สามารถยิงประตูที่สองให้กับทีมได้ในนาทีที่ 19 เมื่อจบเกมทำให้ผลสกอร์ออกมาเสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปคนละแต้ม

อเล็กซิส ยังได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของแฟนบอล พีเอฟเอ(PFA) ประจำปี 2015 เขาทำประตูในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศกับแอสตัน วิลล่า ทำให้เขาทำประตูเพิ่มเป็น 25 ประตู การคว้าแชมป์บอลถ้วย รวมถึงเกมลีกทำให้เขาสมควรได้รับความเคารพด้วยการคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เซน่อลไปครอง

ด้วยผลงาน 30 ประตูและ 19 แอสซิสต์จากการลงเล่น 51 นัดในทุกรายการของฤดูกาล 2016-17 อเล็กซิส คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ อาร์เซนอล อีกครั้งหนึ่ง เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนั้น มาถึงต้นปี ค.ศ. 2018 ในช่วงฤดูกาลที่ที่ 2017-2018 อเล็กซิส เหลือสัญญากับทีม อาร์เซน่อลเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ทว่า อเล็กซิส ไม่ยอมต่อสัญญากับทีมอาร์เซน่อลออกไปอีกจนในที่สุด ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเคนเงินก้อนโต โดยจะได้รับจากค่าจ้าง 350,000 ปอนด์ โน้มน้าว อเล็กซิส ให้ย้ายไปอยู่กับทีม ซึ่งครั้งนั้นถือว่าช็อคแฟนบอลปืนโตไม่น้อย

อเล็กซิส เข้าร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งร่วมลีก เมื่อวันที่ 22 มกราคม ปี 2018 เขายิงประตูแรกให้กับแมนฯยูด้วยลูกจุดโทษกับฮัดเดอร์สฟิลด์ทาวน์ ซึ่งในเกมนั้นต้นสังกัดชนะไป 2-0 แต่ด้วยความคาดหวังของทั้งแฟนบอลและสโมสรที่ตั้งไว้สูง ทาง อเล็กซิส ไม่สามารถทำออกมาได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ เขาเลยถูกจับเป็นสำรองบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมสองฤดูกาล เขาลงไป 32 นัดทำ3 ประตูเท่านั้นเอง เขาจึงถูกปล่อยยืมให้กับ อินเตอร์ มิลานไปใช้งานในฤดูกาล 2019-20 และได้ใช้ออฟชั่นซื้อขาดหลังจากนั้น

และในฤดูกาล 2020-22 ลงให้กับ อินเตอร์ฯ ไป 57 เกม และยิงไป 12 ประตู หลังจากใกล้หมดสัญญา อินเตอร์ขายต่อไปให้กับ มาร์กเซย ใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ปัจจุบันที่ผ่านมาลงไป 6 เกม ทำไปเพียง 4 ประตู แต่ก็ยังเป็นเพียงสำรองเท่านั้น นั่นหมายความว่า หลังจากย้ายออกจาก อาร์เซน่อล ผลงานของ อเล็กซิส ก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นแค่อดีตแข้งดังที่ถูกลืมเท่านั้นเอง






ในสีเสื้อทีมชาติ ชิลี ครั้งที่ดีที่สุดของเขาอยู่ในปี 2015 ในฟุตบอล โคปาอเมริกา 2015 ที่ประเทศชิลีได้เป็นเจ้าภาพ ในนัดชิงชนะเลิศ ที่เจ้าภาพชิลีต้องพบกับทีมชาติอาร์เจนติน่า เกมดำเนินการไปจนครบ 120 นาที ที่รวมทดเวลาพิเศษ แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนสามารถทำประตูชัยได้ จึงต้องเข้าไปสู่การตัดสินการดวลยิงลูกจุดโทษ โดย ซานเชซ เป็นผู้ยิงประตูสังหารที่ 4 ให้กับชิลี โดยการยิงแบบเนิบๆ แต่คมมากเป็นประตูที่ตัดสินให้กับทีมชาติชิลีเอาชนะอาร์เจนติน่าได้สำเร็จ ทำให้ทีมชิลีได้ครองแชมป์โคปาอเมริกาเป็นสมัยแรกในที่สุด

เกียรติประวัติ
โคโล-โคโล
พรีเมียร์ ดีวิชั่น : 2006, 2007
รองแชมป์โคปา ซูดาเมริกานา: 2006
ริเวอร์เพลท
อาร์เจนตินา พรีเมียร์ ดีวิชั่น: 2008
บาร์เซโลน่า
ลาลีกา: 2012–13
โคปา เดล เรย์: 2011–12
ซูเปอร์โคปา เด เอสปาญา: 2011, 2013
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2011
ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ: 2011
อาร์เซน่อล
เอฟเอคัพ: 2014–15, 2016–17
เอฟเอ คอมมูนิตีชีลด์: 2014
แมนฯยูไนเต็ด
รองชนะเลิศเอฟเอคัพ: 2017–18
อินเตอร์ มิลาน
เซเรียอา: 2020–21
โคปปาอิตาเลีย: 2021–22
ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา: 2021
รองชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีก: 2019–20
ทีมชาติ ชิลี
โคปาอเมริกา: 2015, 2016
รองชนะเลิศฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ: 2017

images credit : https://tntsports.cl/

images credit : https://www.latercera.com/

images credit : https://www.facebook.com/

images credit : https://www.voetbal.com/

images credit : https://bleacherreport.com/

images credit : https://www.independent.co.uk/

images credit : https://www.skysports.com/

images credit : https://www.eurosport.com/

images credit : https://www.express.co.uk/

images credt : https://sempreinter.com/

images credit : https://www.theguardian.com/