อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าคนดังทีมชาติยูเครน ที่เคยได้รับรางวัล”บัลลงดอร์”

อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าคนดังทีมชาติยูเครน เกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน ปี 1976 ที่ดิเวอร์เคียฟสชีน่า, ยูเครน เป็นเจ้าของรางวัลบัลลงก์ดอร์ในปี 2004 รวมถึง เป็นหนึ่งในนักเตะยอดเยี่ยม 125 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ จากการคัดเลือกของ เปเล่ ราชาลูกหนังโลก โดย เชฟเชนโก้ สร้างชื่อได้อย่างระเบิดเถิดเทิง ภายหลังเป็นนักเตะที่สามารถยิงประตูในการแข่งขันระดับสโมสรมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ 60 ลูก ตามหลังแค่ แกร์ด มุลเลอร์ อดีตดาวยิงระดับตำนานของ เยอรมัน และ ฟิลิปโป้ อินซากี้ อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาเลี่ยน อยู่เพียง 2 คน เท่านั้น

เชฟเชนโก้ เข้าสู่เส้นทางนักกีฬา ด้วยการแข่งขันชกมวยในลีกระดับเยาวชนของยูเครน แต่เนื่องจากสรีระที่ไม่เอื้ออำนวย จึงทำให้ ในปลายปีนั้น เชว่า ได้ไปเข้าร่วมการทดสอบเลี้ยงลูกฟุตบอล เพื่อเข้าโรงเรียนกีฬาในกรุงเคียฟ แต่เขาก็ไม่ผ่านการทดสอบดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ฝีเท้าของเชฟเชนโก้ ก็ไปสะดุดตาของแมวมองจากสโมสรดินาโม เคียฟ ในการลงแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรายการหนึ่ง และถูกทางสโมสรชักชวนมาเป็นเด็กฝึกหัด

เชฟเชนโก้ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการลงเล่นให้กับทีมเยาวชนของดินาโม เคียฟ ในปี 1990 เขาร่วมทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีของดินาโม เคียฟ มาลงแข่งขันฟุตบอล “เอียน รัช คัพ” ที่ประเทศเวลส์ และเขาก็ได้ตำแหน่งดาวซัลโวของการแข่งขัน ในฤดูกาล 1993/1994 เชฟเชนโก้ เป็นดาวซัลโวของทีมชุดบี ของ ดินาโม เคียฟ โดยทำได้ 12 ประตู ทำให้ได้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในที่สุด

ถัดมาในฤดูกาล 1996/1997 เชฟเชนโก้ และ ดินาโม เคียฟ ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ลีกของยูเครน เอาไว้ได้ ก่อนที่จะมาคว้าแชมป์ได้อีกในฤดูกาล 1997/1998 ซึ่งในฤดูกาลนี้ เชฟเชนโก้ แจ้งเกิดในระดับยุโรป ด้วยการทำแฮตทริกช่วยให้เคียฟ ถล่ม บาร์เซโลน่า ทีมยักษ์ใหญ่ของสเปน 4-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยในฤดูกาลดังกล่าว เชว่า ทำได้ 19 ประตู จากการลงสนาม 23 นัด






หลังจากสร้างชื่ออยู่ในบ้านเกิดมานาน เชฟเชนโก้ ก็ถูก เอซี มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่ของอิตาลี ซื้อตัวมาร่วมทีม ในปี 1999 ด้วยมูลค่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 910 ล้านบาท) และก็กลายเป็นผู้เล่นกำลังสำคัญของทีมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดย เชว่า ลงสนามนัดแรกให้กับ มิลาน ในเกมที่เสมอกับ เลชเช่ 2-2 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ปี 1999 ก่อนจะยิงระเบิดระเบ้อไปถึง 24 ประตู จากการลงสนาม 32 นัด เป็นดาวซัลโวสูงสุดของกัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 1999/2000

เชฟเชนโก้ ทำได้ 34 ประตู จากการลงสนาม 51 นัด ในฤดูกาล 2000/2001 และ 17 ประตู จากการลงสนาม 38 นัด ในฤดูกาล 2001/2002 แต่ มิลาน ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดมาครองได้เลย ในช่วง 2 ปีนั้น ในฤดูกาล 2003/2004 มิลาน และ เชฟเชนโก้ ก็มาประสบความสำเร็จร่วมกันอีกครั้ง เมื่อคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา มาครองได้ โดยที่ เชว่า ก็คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของลีกอิตาลี มาครองได้อีกครั้ง หลังจากทำได้ 24 ประตู จากการลงสนาม 32 นัด นอกจากนั้นเขายังทำประชัยให้ มิลาน เอาชนะ เอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ มาครองได้อีกด้วย

เดือนธันวาคม ปี 2004 เชฟเชนโก้ ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป หรือ บัลลงดอร์ มาครอง ทำให้เขากลายเป็นนักเตะยูเครนคนที่สามที่ได้รับรางวัลดังกล่าว หลังจากที่ โอเล็ก บล็อกคิน และ อิกอร์ เบลานอฟ เคยทำได้มาแล้ว นอกจากนี้ เขายัง เป็นหนึ่งในนักเตะยอดเยี่ยม 100 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ จากการคัดเลือกของ เปเล่ ราชาลูกหนังโลก รวมทั้งยังได้รับรางวัลวีรบุรุษของชาวยูเครน จากอดีตประธานาธิบดี ลีโอนิด คุชม่า ของยูเครน

ในฤดูกาล 2005/2006 เชฟเชนโก้ ทำได้ 19 ประตู จากการลงสนาม 22 นัด ในกัลโช่ เซเรีย อา แต่ มิลาน ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดมาครองได้เลย วันที่ 28 พฤษภาคม 2006 เชฟเชนโก้ ย้ายมาร่วมทีม เชลซี ด้วยค่าตัวถึง 30 ล้านปอนด์ เป็นสถิติการซื้อตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำลายสถิติเดิมของ มิชาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์ทีมชาติกานา ที่ย้ายจาก โอลิมปิก ลียง มาร่วมถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในราคา 24 ปอนด์ โดยเชฟเชนโก้ ได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อเบอร์ 7 ของทีม

เชฟเชนโก้ ออกสตาร์ตภายใต้สีเสื้อทีม “สิงห์บูลส์” ในเกมคอมมิวนิตี้ชิลด์ ที่ต้นสังกัด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ในวันที่ 13 สิงหาคม 2006 ก่อนที่เขาจะมาซัดประตูแรกให้กับตัวเองได้ในเกมเอฟเอ คัพ ที่แพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-2 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2006 อย่างไรก็ดี เชว่า ก็ทำประตูให้เชลซีได้ไม่เปรี้ยปร้างนักในซีซั่นนี้ โดยเขายิงประตูไปทั้งสิ้น 14 ลูกจาก 51 เกมเท่านั้นเอง ในฤดูกาล 2006-2007 เชฟเชนโก้ พลาดการลงสนามให้กับเชลซีเป็นเวลานาน เนื่องจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บและต้องเข้ารับการผ่าตัดไส้เลื่อน ทว่าหลังจากหายดีเขาได้กลับมาลงเล่นแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนสุดท้ายเขาเลือกที่จะย้ายทีมเพื่อเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้ยังลีกอื่น






คราวนี้ได้ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวให้กับทีมต้นกำเนิดของเค้าอย่าง เอซี มิลาน เล่นไป 18 เกม ทำประตูไม่ได้เลย จึงกลับมาแจ้งเกิดไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ รวมถึงมีอาการบาดเจ็บรบกวนด้วย สุดท้ายเค้าไม่มีทางเลือกต้องย้ายอีกครั้ง คราวนี้กลับไปต้นกำเนิดของเค้าเลยที่บ้านเกิดอย่าง ไดนาโม เคียฟ

ที่นั้นเค้าลงเล่นอยู่ประมาณ สามซีซั่น ลงเล่นไป 55 เกมทำไป 23 ประตู พร้อมกับแขวนสตั๊ดที่นั่นเลย หลังจากแขวนสตั๊ดไป อังเดร เชฟเชนโก้ ก็เดินสู่ทางโค้ชเต็มตัวเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยในทีมชาติยูเครนเมื่อปีที่ 2016 แล้วก็ขยับขึ้นมาในจุดสูงสุดในปัจจุบันกับยูเครน

เกียรติประวัติ
ดินาโม เคียฟ
ยูเครนพรีเมียร์ลีก: 1994–95, 1995–96, 1996–97, 1997–98, 1998–99
ยูเครน คัพ: 1996, 1998, 1999
เครือรัฐเอกราชคัพ: 1996, 1997, 1998
เอซี มิลาน
เซเรีย อา: 2003–04
โคปปา อิตาเลีย: 2002–03
ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา: 2004
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2003
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2003
เชลซี
เอฟเอ คัพ: 2007
ฟุตบอลลีกคัพ: 2007

images credit : https://www.indosport.com/

images credit : https://www.express.co.uk/

images credit : https://www.footballtransfers.com/

images credit : https://www.pinterest.com/

images credit : https://www.thesun.co.uk/

images credit : https://www.dailystar.co.uk/

images credit : https://www.skysports.com/

images credit : https://www.besoccer.com/

images credit : https://es.uefa.com/

images credit : https://www.acmilan.com/