อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์กองหน้าปีศาจแดง “แอนดี้ โคล”

ตำนานกองหน้าปีศาจแดงอีกราย แอนดี้ โคล “แอนดี้” เกิดที่ น็อตติ้งแฮม ประเทศอังกฤษ 15 ตุลาคม 1971 โคลเริ่มอาชีพของเขาเป็นผู้เล่นเยาวชนของ อาร์เซนอล ออกจากโรงเรียนในปี 1988 การลงนามเป็นมืออาชีพในปี 1989

เขาปรากฏตัวของเขาในลีกสำหรับ อาร์เซน่อล อายุ 19 ได้เล่นกับทีมครั้งแรกในการเจอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ไฮบิวรี่ในช่วงส่วนแรกการแข่งขันในวันที่ 29 ธันวาคม 1990 อาร์เซนอล ชนะ 4-1 แต่ โคล ทำประตูไม่ได้

นอกจากนี้ เขายังลงเล่นในการเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในแชริตี้ ชิลด์ในปี 1991 และเกือบจะส่งผลกระทบในทันที โดยยิงประตูจากนอกเขตโทษ

ในฤดูกาลถัดมา โคล ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ ฟูแล่ม ในดิวิชั่น 3 ซึ่งเขายิงได้สามประตูจาก 13 นัด และต่อมาถูกยืมตัวมายัง บริสตอล ซิตี้ หนึ่งฤดูกาล ก่อน บริสตอล ซิตี้ จะขอซื้อขาดในที่สุดด้วยค่าตัว 500,000 ปอนด์ ในเวลานั้นเขาคือนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร บริสตอล ซิตี้

และ หลังจากที่พิสูจน์ตัวเองในฐานะกองหน้าดาวรุ่งที่บริสตอล ซิตี้ ที่เริ่มซีซั่น 1992-93 ในลีกดิวิชั่น 1 หลังจากการเกิดของฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก โคล สร้างชื่อเป็น 1 ในดาวยิงที่ฮ็อตที่สุดของอังกฤษ และมีข่าวกับทีมในพรีเมียร์ ลีกหลายต่อหลายทีม

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 1993 นิวคาสเซิ่ล จ่าฝูงดิวิชั่น 1 ทุ่มเงิน 1.75 ล้านปอนด์เป็นสถิติของสโมสรในตอนนั้นดึงตัวเขามาร่วมทีม โคล ยิง 12 ประตูจาก 12 นัดช่วยให้ แม็กพายส์ เลื่อนชั้นจากดิวิชั่นหนึ่งขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ ลีกสำเร็จ

หลังจากที่ เดวิด เคลลี่ ถูกขายให้ วูล์ฟแฮมพ์ตัน วันเดอเรอร์ส เควิน คีแกน ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิ่ล คว้าตัวปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ มาเป็นคู่ขาของ โคล เพื่อสู้ศึกพรีเมียร์

ลีกฤดูกาล 1993-94 โคล ยิง 34 ประตูจาก 40 เกม ซีซั่นแรกใน พรีเมียร์ลีก ของ นิวคาสเซิ่ล ที่จบซีซั่นที่อันดับ 3 และ ได้ไป ยูฟ่า คัพ รวมทุกรายการแล้ว โคล ทำ 41 ประตู

ต่อมา โคล มาได้รับเลือกเป็นผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ 10 มกราคม 1995 โคล โดนขายแบบปัจจุบันทันด่วนให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ เป็นสถิติค่าตัวย้ายทีมสูงที่สุดของอังกฤษในตอนนั้น

แม้จะย้ายทีมช่วงกลางซีซั่น 1994-95 โคลยังทำได้ 12 ประตูจาก 18 นัดในพรีเมียร์ ลีกให้ ยูไนเต็ด ในครึ่งฤดูกาลแรกของเขา รวมประตูแรกของเขาที่ช่วยให้ ยูไนเต็ด ชนะแอสตัน วิลล่า 1-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันที่ 4 กุมภาพันธ์ และ 5 ประตูในนัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม อิปสวิช 9-0 ที่ทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิง 5 ประตูในเกมเดียวในลีก

ปี 1995-96 เป็นปีที่ยากทีเดียวสำหรับเขา เนื่องจาก โคล กลายเป็นหัวหอกฟอร์มบู่ในทีม ที่ตอนนี้มี อีริค คันโตน่า เป็นกัปตันทีมอยู่ กระนั้น โคล ยังทำประตูได้ 4 นัดติดต่อกันในช่วงหน้าหนาว รวมถึงประตูเบิกร่องลูกสำคัญให้ แมนฯ ยูไนเต็ดเอาชนะ นิวคาสเซิล คู่แข่งแย่งแชมป์ในปีนั้น 2-0

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม โคล ถูกทั้งสื่อ และ แฟนบอลถากถางเกือบทั้งซีซั่นที่เขายิงได้แค่ 14 ประตู และพลาดโอกาสงามๆ หลายหน อย่างไรก็ตามเขากลับมาเข้าฟอร์มเก่งช่วงท้ายซีซั่น และยิงประตูสำคัญๆ รวมถึงประตูชัยใน เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศที่ยูไนเต็ดพบ เชลซี และได้ไปเวมบลีย์อีกครั้ง

หลังจากนั้นเขาได้เหรียญแชมป์พรีเมียร์ ลีกครั้งแรก และยิงประตูที่สองในนัดที่ยูไนเต็ดชนะมิดเดิลสโบรห์ในนัดสุดท้าย 3-0 ที่ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ดได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 3 ใน 4 ปี เขาลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ด้วย และเป็นหนึ่งในทีมอังกฤษทีมแรกที่ได้ดับเบิลแชมป์ 2 ครั้ง

โคล ลงเล่นนัดสุดท้ายให้ยูไนเต็ดในเกมฉลองยูฟ่า 6 ปีต่อมา วันที่ 13 มีนาคม 2007 ที่เขาลงเล่นในช่วงพักครึ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พบทีมรวมดารายุโรป เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของ ประชาคมยุโรป (อีซี) และ 50 ปีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยูโรเปี้ยน คัพ

ต่อมาเขาได้ถูกขายให้ แบล็คเบิร์น ค่าตัว 8 ล้านปอนด์ หลังจากนั้นสองเดือนเขาได้แชมป์ ลีก คัพ ที่เขาเป็นคนยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะ สเปอร์ส ในนัดชิงชนะเลิศ จบซีซั่นนั้นเขาทำได้ 18 ประตูทุกถ้วย แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ได้อันดับ 6 ซีซั่นต่อมา และผ่านเข้ารอบไปยูฟ่า คัพ ฤดูกาลนี้เองที่ โคล ได้จับคู่กับ ดไวท์ ยอร์ค อีกครั้ง

ฤดูกาล 2003-04 โคล พบกับซีซั่นที่วุ่นวาย เมื่อโรเวอร์สหล่นไปอยู่ครึ่งล่างของตาราง และจบที่อันดับ 15 เขาทำได้ 11 ประตู แต่ความสัมพันธ์กับ แกรม ซูเนสส์ ผู้จัดการทีมย่ำแย่ หลังจากที่ โคล รายงาน พีเอฟเอ ว่า ซูเนสส์ เขาได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โคลยิงไป 37 ประตูจากการลงเล่น 100 นัดในทุกรายการให้กับ แบล็คเบิร์น

ในฐานะนักฟุตบอลเขาเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988 ถึง 2008 เป็นที่เป็นจดจำมากที่สุดเมื่อครั้งอยู่กับสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก เขาอยู่กับสโมสร 6 ปี และได้รับถ้วยรางวัลหลายครั้ง

เขายังเล่นให้กับสโมสรระดับต้น ๆ อย่าง สโมสรฟุตบอล อาร์เซน่อล สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอล แบล็กเบิร์น โรเวอส์ สโมสรฟุตบอล ฟูแล่ม สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พอร์ตสมัธ และซันเดอร์แลนด์ และเล่นให้กับทีมอื่นอย่าง บริสตอล ซิตี้ เบอร์มิงแฮมซิตี เบิร์นลีย์ และน็อตติ้ง แฮมฟอเรสต์

โคล เป็นผู้ยิงประตูสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยยิงได้ 187 ประตูในลีก เป็นรองเพียง อลัน เชียเรอร์ ที่ยิงได้ 260 ประตูเท่านั้น

แอนดี้ โคล แขวนสตั๊ดในปี 2008 และสโมสรสุดท้ายเขาคือ สโมสร น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ รวมทั้งสิ้นในอาชีพค้าแข้งเขาลงเล่นให้กับทุกสโมสรรวมแล้วมากกว่า 500 เกม

เกียรติประวัติ
อาร์เซน่อล
ชาร์ลิตี้ ชิลด์ : 1991
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
แชมป์ลีก ดีวิชั่น 1 1992–93
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1995–96, 1996–97, 1998–99, 1999–2000, 2000–01
เอฟเอ คัพ 1995–96, 1998–99
ชาร์ลิตี้ ชิลด์ 1997
ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 1998–99
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
แชมป์ ลีก คัพ 2001–02
ส่วนตัว
รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก 1993–94
นักเตะดาวรุ่งแห่งปีของ พีเอฟเอ 1993–94
ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกประจำเดือน พฤศจิกายน 1997
ทีมยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ 1999–2000 พรีเมียร์ลีก

images credit : https://www.arsenal.com/

images credit : https://www.bristolpost.co.uk/

images credit : https://nothingbutnewcastle.com/

images credit : https://www.manchestereveningnews.co.uk/

images credit : https://www.goal.com/

images credit : https://www.sports-nova.com/

images credit : https://www.planetfootball.com/

images credit : https://www.skysports.com/

images credit : https://www.psm-group.co.uk/