ตำนานแบ็กซ้ายที่กูรูยกให้เป็นแข้งที่ดีที่สุดในยุค ที่มีทั้งคนรักคนเกลียดมากที่สุด

แอชลีย์ โคล ตำนานแบ็กซ้ายชาวอังกฤษที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดของยุค แบ็กซ้ายที่คนทั้งรักทั้งเกลียด เขาเกิดวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1980 ในแถบตะวันออกของลอนดอน มีพ่อเป็นชาวบาร์เบโดส เป็นผลผลิตนักเตะเยาวชนของทีมอาร์เซน่อล

โคล ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และผู้เล่นมืออาชีพหลายคนว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในรุ่นของเขา
โคล ถือว่าเป็นลูกหม้อของ ปืนใหญ่ เขาเล่นให้กับทีมตั้งแต่สมัยยังเป็นเยาวชนก่อนจะขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ในปี 1999 และเป็นนักเตะกำลังสำคัญของแฟนบอล เดอะกันเนอร์ส มาโดยตลอด

เขาเป็นขวัญใจของแฟนบอลหลายคน และไม่มีเคยคิดว่า โคล จะย้ายทีมหนีไปไหน ในปี 1999-2000 ได้ย้ายไปเล่นกับทีม คริสตัลพาเลซ ในแบบยืมตัว 3 เดือน ลงเล่น 14 นัดทำได้ 1 ประตู และในฤดูกาลนี้เองที่ได้ลงเล่นนัดแรกในเวทีพรีเมียร์ลีกกับ อาร์เซนอล ในเกมสุดท้ายของลีก ปี 2000-2001

เขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกกับ อาร์เซน่อล และแชมป์เอฟเอคัพ ในปี 2001-02 แต่แล้ววงการฟุตบอลก็ไม่มีอะไรแน่นอนในฤดูกาล 2005–2006 โคล ถูกจับได้ว่าแอบติดต่อกับ เชลซี คู่อริร่วมเมืองของ อาร์เซน่อล ถึงความเป็นไปได้ในการย้ายทีมอย่างลับๆ

แม้ว่าบอร์ดบริหารจะหาข้อเสนอที่ดีมารั้งตัว โคล ให้อยู่กับทีมต่อไป แต่ทุกอย่างก็ได้สายไปเสียแล้ว เขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมเชลซี ในฤดูกาล 2006 – 2007 ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ บวกกับการย้ายสลับตัวกับ วิลเลี่ยม กัลลาส อีกทั้ง โคล โดนลงโทษย้อนหลังด้วยการถูกปรับเงิน 100,000 ปอนด์ เพราะแอบเจรจากับ เชลซี โดย อาร์เซน่อลไม่รู้เห็น ซึ่งถือว่าผิดกฏตามสัญญาระบุไว้

การย้ายทีมครั้งนี้สร้างความขุ่นเคืองให้กับแฟนบอล อาร์เซน่อลมาก และประนามว่า โคล เห็นแก่เงิน จนถูกเรียกว่า”ไอ้คนทรยศ” แต่อย่างไรก็แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษก็ยืนยันว่า เขาย้ายมาเพราะเห็นว่า อาร์เซน่อล เริ่มจะแพแตกเพราะนักฟุตบอลรุ่นเก่าๆ ต่างย้ายทีมออกไป และไม่เห็นถึงความมุ่งมั่นในการที่อยากจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกออกมาจากนักเตะที่เหลืออยู่ได้อีก

ทำให้เขาตัดสินเลือกที่จะไปดีกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเงินแต่อย่างใด การย้ายทีมครั้งนี้ โคล เป็นฝ่ายคิดถูกเพราะหลังจากนั้น อาร์เซน่อล ก็ถอยหลังลงคลอง ส่วน โคล ประสบความสำเร็จมากมายกับ เชลซี

โคล นั้น กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของ เชลซี ในช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร นอกจากเป็นที่รักของเหล่า สิงห์บลู แล้ว โคล ยังเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมทีมทุกคน แม้กระทั่งผู้จัดการทีมคนไหนที่มาคุม เชลซี โคล ไม่เคยเสียตำแหน่งเลยสักครั้ง

แต่แล้วในปี 2008 โคล ก็ได้สร้างเรื่องอีกครั้งโดยครั้งนี้เขาประกาศเลิกกับแฟนสาว ทำให้เขาต้องแบ็กรับเสียงโห่ทั้งจากแฟนบอลทีมชาติอังกฤษ และแฟนบอล อาร์เซน่อล แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพเขาเปลี่ยนเสียงโห่เหล่านั้นให้เป็นแรงผลักดันตัวเองสร้างผลงานได้อย่างสุดยอด

จนกระทั่งฟุตบอลโลกปี 2010 ทัพ “สิงโตคำราม” ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่แต่คนที่โดดเด่นขึ้นมาในทีมกลับเป็น แบ็กซ้าย รายนี้ เข้าได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของประเทศอังกฤษประจำปีนั้น เขากลบเสียงโห่ของแฟนบอลทุกคนได้อย่างมิดชิด แต่ก็ยังมีเป็นส่วนน้อยที่หลุดออกมาบ้างประปราย

ด้วยสัญชาตญาณนักสู้ บวกด้วยทักษะผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ โคล เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 8 รายการ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับ เชลซี ได้แก่พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย, ยูโรป้า ลีก 1 สมัย และแน่นอนแชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

หนึ่งในจุดเด่นของ โคล คือความสม่ำเสมอ และความสามารถในการทำผลงานในเกมกดดันสำคัญๆได้เป็นอย่างดี
ในฤดูกาล 2012-13 เขาลงสนาม 51 จากการแข่งขันทั้งหมด 69 นัด รวมถึงศึก ยูโรป้า ลีก รอบชิงชนะเลิศที่พวกเราเอาชนะ เบนฟิก้า นอกจากนี้ยังรับใช้ทีมชาติอังกฤษครบ 100 เกมอีกด้วย

โอกาสการเล่นของเขาในฤดูกาลสุดท้ายกับสโมสรค่อนข้างจำกัดจำเขียด แต่ โคล เป็นส่วนหนึ่งในทีมที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 ที่ แอนฟิลด์ ในเดือน เมษายน และออกสตาร์ตตัวจริงในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศที่พบกับ แอตเลติโก มาดริด

โคล ลงสนามนัดสุดท้ายให้กับ เชลซี ในแมตช์บุกเยือน คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2013-14 ในอาชีพค้าแข้งของ โคล ก็มีทั้งคนที่รักและคนที่เกลียดกันไปพอกัน นั่นเป็นสิ่งที่มองอีกมุมได้ว่า ไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไรในฐานะไหนเป็นคนดังหรือไม่ดังก็แล้วแต่หากทำตัวไม่ดีทำตัวกระทำผิดพลาดก็จะมีคนที่รักและคนที่เกลียด เช่นเดียวกันอยู่เสมอ

ถึงกระนั้นเขาก็ยังเป็นนักเตะแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของ เชลซี และเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษ เล่นเก่งกว่าใครหลายๆคนและสามารถคว้าแชมป์หรือทำให้ทีมไปสู่ชัยชนะได้อย่างประสบความสำเร็จอย่างมากมาย และนั่นก็คือความสำเร็จของเขา แอชลีย์ โคล

โคล ประกาศอำลาสนามหลังจบฤดูกาล 2018 – 2019 กับทีม ดาร์บี้ เค้าท์ตี้ ทิ้งสถิติการลงเล่นไว้ทั้งหมด 702 ยิงไป 21 ประตู ในสีเสื้อ “สิงโตคำราม” 107 นัด พร้อมกับคำยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลก

เกียรติประวัติ
อาร์เซน่อล
แชมป์ พรีเมียร์ลีก : 2001–02, 2003–04
แชมป์ เอฟ เอ คัพ : 2001–02, 2002–03, 2004–05
แชมป์ แชริตีชีลด์ : 2002, 2004
เชลซี
แชมป์ พรีเมียร์ลีก: 2009–10
แชมป์ เอฟเอ คัพ: 2006–07, 2008–09, 2009–10, 2011–12
แชมป์ ฟุตบอลลีกคัพ: 2006–07, รองแชมป์ : 2007-08
แชมป์ แชริตีชีลด์ : 2009
แชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2011–12, รองแชมป์ : 2007-08
แชมป์ ยูฟ่า ยูโรปาลีก : 2012–13

credit : https://www.sportskeeda.com/

images credit : https://paininthearsenal.com/

images credit : https://www.eurosport.com/

images credit : https://www.premierleague.com/

images credit : https://www.footyscout.ca/

images credit : https://www.chelsea-news.co/

images credit : https://www.zimbio.com/

images credit : https://www.skysports.com/

images credit : https://backpagefootball.com/