อีกหนึ่งนักเตะ ตำนานการวางบอลอันลือลั่น “เดวิด เบคแฮม” อีกหนึ่งผู้เล่นที่ได้รับเกียรติเข้าHall of fame

เดวิด เบคแฮม ชื่อเต็มว่า เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม เกิดวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 นักฟุตบอลชายชาวอังกฤษ ปัจจุบันเขาเป็นประธานสโมสรอินเตอร์ ไมอามี ใน เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ ลีกฟุตบอลสูงสุดในสหรัฐและแคนาดา

เบคแฮม เคยเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เพรสตัน นอร์ทเอนด์, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน, แอลเอ แกลักซี และปารี แซ็ง-แชร์กแม็ง และโดยเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ในปี 1996 จนถึง ปี 2009 และยังเคยเป็นกัปตันทีมของทีมชาติอังกฤษด้วย


เบคแฮม เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย เขาหลงใหลในกีฬานี้อย่างมาก เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นมืออาชีพในฐานะผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต หลังจากเริ่มต้นอาชีพเยาวชนของเขาที่ ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส ทีมในท้องถิ่น เบคแฮม ได้เดินทางไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1991 เขาเข้าไปอยู่ในความดูแลของ ทีมงาน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

 

เขาได้เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ในปี 1992 ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองกลางด้านขวา ด้วยการวางบอลที่แม่นยำ ทางท่ายเซอร์จึงจับเขาเล่นในตำแหน่งปี เพื่อต้องการให้เขาวางบอลเข้ากรอบเขตโทษให้กับเพื่อร่วมทีมทำประตู โดยเขาได้เสื้อหมายเลข 7 ต่อจากมาร์ค ฮิวจ์ส

เบคแฮม อยู่ที่ ยูไนเต็ด จนถึงปี 2003 ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 6 สมัยและ ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย เขาจะลงเล่นในเสื้อแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งสิ้น 386 นัด จนเป็นที่รักใคร่ของแฟนผีแดงเป็นอย่างมาก ด้วยการวางบอลที่แม่นยำบวกหน้าตาดี จึงไม่แปลกที่จะเป็นซุปตาร์อันดับหนึ่งของทีม

จนมาถึงจุดๆหนึ่งระหว่างเขากับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในความสัมพันธ์อันดีค่อยๆลดลงเรื่อยๆเมื่อ หลายๆเกมเขามีปากเสียงกับกุนซือรายนี้บ่อยครั้ง แถมเคยมีข่าวว่าเบคแฮมโดนท่านเซอร์ปารองเท้าใส่อีกด้วย ครั้งนั้นจึงเป็นการแตกหักกันอย่างสิ้นเชิง และถูกขายออกจากทีมหลังฤดูกาลทันที ด้วยค่าตัว 37 ล้านยูโร จนแฟนๆต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันต่างๆนาๆ ในแง่ลบของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน


หลังจากเขาย้ายมาค้าแข้งยัง เรอัล มาดริด แบบไม่เต็มใจเท่าไหร่นักในตอนแรก แต่ด้วยที่ตนเองชอบอาชีพนี้อยู่แล้วจึงพยายามปรับตัวเข้าหาเพื่อร่วมทีม จนเขาก็มีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนในมาดริดได้สำเร็จ

แม้ว่าในสามฤดูกาลแรกของ เบคแฮม กับสโมสรเรอัล มาดริด จะไม่สวยหรู และทีมไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการ แต่ เบคแฮม ก็ยังเป็นกำลังของทีมตลอดมา จนเขากลับมาแสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในฤดูกาล 2005-06 เขาก็กลับมาสร้างผลงานได้ดีอีกครั้ง ถึงขั้นก้าวเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องแอสซิสต์ เวทีลาลีกา แต่ก็ยังไม่สามารถพาทีมถึงขั้นได้แชมป์ในปีนั้น เพราะจบแค่รองแชมป์เท่านั้น

หลังจากนั้นในปี 2006 ได้มีการเปลี่ยนถ่ายผู้จัดการทีมมาเป็น ฟาบิโอ คาเปลโล อีกทั้ง ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรในตอนนั้นลาออกไปอีก ทำให้ เบคแฮม จึงไม่ค่อยเป็นที่โปรดปรานของกุนซือใหม่ซักเท่าไหร่ แต่เขากลับมาในช่วงที่สองของฤดูกาล ช่วยให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลาลีกา เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีที่เขาอยู่ที่นี่

ในระดับนานาชาติ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งสุดท้ายของ เบคแฮม คือฟุตบอลโลกปี 2006 เขามีส่วนอย่างมากในการพาอังกฤษเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยทำประตูให้ทีมชนะ โดยลูกฟรีคิกในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ เอกวาดอร์ และถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากพักครึ่งเวลาไม่นาน และในเกมกับ อังกฤษพลาดท่าพ่ายแพ้ โปรตุเกสชนะเกมด้วยการดวลจุดโทษ วันต่อมา เบคแฮม ประกาศลาออกจากการเป็นกัปตันทีมไปทันที


กลับมาที่ลีก หลังเบคแฮม หมดสัญญากับ เรอัล มาดริด เบคแฮม ก็ตัดสินใจโยกไปค้าแข้งต่างแดนอีกครั้ง ครั้งนี้ไปขุดทองที่ฝั่งอเมริกา กับสโมสร แอลเอ แกแลคซี่ จนสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ใน ลีก อเมริกา ดาราดังในวงการฟุตบอลยุโรปเขาไม่ค่อยไปค้าแข้งกันซักเท่าไหร่ในตอนนั้น และเบคแฮมก็โชว์ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยพาทีม แกแลคซี่ คว้าแชมป์ไปครองได้ถึง 2 สมัยด้วยกัน ปี 2010 และ 2011

ในปี 2013 เบคแฮม เซ็นสัญญาระยะสั้นห้าเดือนกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีก เอิง เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเขาเกษียณจากฟุตบอลในที่สุด ซึ่งรวมแล้ว เบคแฮม อยู่วงการค้าแข้งในอาชีพทั้งหมดมากกว่า 500 นัด ยิงไปมากถึง 97 ประตู และสร้างเกียรต์ประวัติกับสโมสรให้กับตนเองอย่างมากมายอีกด้วย จนเขาได้รับเกียรติให้ไปอยู่หอเกียรติยศ ของประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อย

เกียรติประวัติอย่างเป็นทางการ
กับสโมสร แมนฯยู
-พรีเมียร์ลีก 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-2000, 2000-01, 2002-03
-เอฟเอคัพ 1995-96, 1998-99
-ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1998-99
-อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ 1999
-คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1993, 1994, 1996, 1997
-เอฟเอ ยูธ คัพ 1991-92
กับสโมสร เรอัล มาดริด
-ลาลิกา 2006-07
-ซูเปร์โคปา ดิ เอส ปัญญา 2003-04
กับสโมสร แอลเอ แกแลคซี่
แชมป์ลีก 2010, 2011
แชมป์ ลีก คัพ 2011, 2012
กับสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
ลีกเอิง 2012-13

credit : https://www.footballhistory.org/

images credit : https://twitter.com/optajoe/status/1256621974186455041

images credit : https://ftblcult.com/

images credit : https://www.realmadrid.com/

images credit : https://www.eurosport.de/