ตำนานแข้ง อุรุกวัย ที่แฟนแมนฯยูรู้จักกันดีในยุคป๋ากี้ “ดิเอโก้ ฟอร์ลัน”

ดิเอโก้ ฟอร์ลัน หนึ่งในตำนานกองหน้าของทีมชาติ อุรุกวัย ที่เคยค้าแข้งกับปีศาจแดงมาแล้วด้วย เขาเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 1979 ที่เมืองมอนเตวิเดโอ ประเทศอุรุกวัย และเขาก็ได้เก็บกระเป๋าเดินทางมายุโรปด้วยการมาทดสอบฝีเท้ากับทีม น็องซี่ ทีมในฝรั่งเศส แต่ทาง น็องซี่ ก็ไม่ได้เซ็นสัญญาให้เขาเป็นนักเตะอาชีพของด้วยด้วยเหตุผลบางประการ ฟอร์ลัน จึงเดินทางกลับบ้านเกิดไปอย่างผิดหวังไม่น้อย

หลังจากนั้น ฟอร์ลัน ถูกสโมสร อินดิเพนเดียนเต้ ดึงมาร่วมทีมและมอบสัญญาอาชีพให้แก่เขา เขาลงเล่นในระดับอาชีพให้กับอินดิเพนเดียนเต้เป็นสโมสรแรก และอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองปี ลงเล่น 91 เกมยิงไป 40 ประตู สร้างชื่อเสียงให้กับเขา ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเมื่อย้ายมาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 22 มกราคมปี 2002 ด้วยค่าตัว 6.9 ล้านปอนด์ ซึ่งอันที่จริงแล้วนั้น เป็นทาง มิดเดิ้ลสโบรห์ ติดต่อเขาไปก่อน ก่อนที่เขาจะเลือกมาอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด สืบเนื่องมาจากข้อเสนอที่น่าสนใจกว่านั่นเอง โดยเฉพาะเงินกินเปล่าในการเซ็นสัญญามากถึง 1 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

เขาได้ลงประเดิมสนามให้กับทีมปีศาจแดงเมื่อวันที่ 29 มกราคม เมื่อถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ในนาทีที่ 76 ในเกมที่เอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ไป 4-0 แต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูแรกให้กับทีมได้เลย หลังจากที่ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก ไป 13 เกม และแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 5 เกม จนกระทั่งจบฤดูกาล 2001-02

ฟอร์ลันมาทำประตูแรกให้กับสโมสรได้สำเร็จในวันที่ 18 กันยายน ปี 2002 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับมัคคาบี้ ไฮฟา โดยเป็นการยิงจากลูกจุดโทษในนาทีที่ 89 ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 5-2 ส่วนในพรีเมียร์ ลีก นั้น ประตูแรกของเขามาจากเกมที่เสมอแอสตัน วิลล่า 1-1 โดยเขาเป็นคนยิงลูกตีเสมอให้กับทีมปีศาจแดงในวันที่ 26 ตุลาคม




แต่ประตูที่สร้างชื่อให้เขาเริ่มเป็นที่จดจำก็คือในเกมที่พบกับเซาแธมป์ตันเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ตอนนั้นเกมยังเสมอกันอยู่ 1-1 และฟอร์ลันก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 79 ก่อนที่เขาจะสับไกผ่านมือ อันต์ติ นีมี่ ผู้รักษาประตูทีมนักบุญเข้าไปแบบสุดสวยเป็นประตูชัย 2-1 ในนาทีที่ 85 จากนั้นก็มาตกเป็นพาดหัวข่าวเมื่อยิงคนเดียว 2 ลูกให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะคู่ปรับอย่างลิเวอร์พูลได้ 2-1 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม

รวมแล้วในฤดูกาล 2002-03 ฟอร์ลันยิงประตูไปได้ทั้งหมด 6 ประตู ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จ พร้อมกับเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของทีมในฤดูกาลนั้นตามหลัง รุด ฟาน นิสเตลรอย และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์

แต่แล้วในช่วงต้นฤดูกาล 2003-04 เขาก็กลับมาปืนฝืดอีกครั้ง โดยยิงไม่ได้ติดต่อกัน 7 เกมในพรีเมียร์ ลีก ก่อนที่จะมาปลดล็อคเอาในเกมที่แพ้ฟูแล่ม 1-3 จากนั้นในฤดูกาล 2004-05 เขาก็โชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจนัก และเกมสุดท้ายของเขาในฐานะนักเตะปีศาจแดงก็คือเกมแรกในลีกของฤดูกาลที่บุกไปแพ้เชลซี 0-1 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม

อย่างไรก็ตามดาวยิงชาวอุรุกวัยก็ย้ายไปเล่นกับบียาร์เรอัลของสเปนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2004 ค่าตัว 2.8 ล้านปอนด์ โดยที่ ฟอร์ลัน เลือกย้ายมาค้าแข้งที่สเปนก็เพราะว่าเขาอยากได้ใกล้ชิดกับพี่สาวของเขาที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ และเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เขาซัดประตูเป็นกอบเป็นกำจนพาทีม บียาร์เรอัลผ่านเข้ารอบไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แถมยังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวลา ลีกา ฤดูกาล 2004-05 ด้วยจำนวน 25 ประตูอีกด้วย

เขาเล่นอยู่กับบียาร์เรอัลจนถึงฤดูกาล 2007-08 โดยย้ายไปเล่นให้แอตเลติโก มาดริด และก็ระเบิดฟอร์มได้เหมือนเช่นเคย โดยคราวนี้ถึงกับช่วยให้ทีมตราหมีคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ได้ด้วยในฤดูกาล 2009-10 ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับอินเตอร์ มิลาน ในปี 2011 และค้าแข้งอยู่กับอินเตอร์ฯเพียงฤดูกาลเดียวก่อนจะย้ายไป อินเตอร์นาซิอองนาล ลีกในประเทศบราซิล หลังจากนั้นชื่อเสียงของ ฟอร์ลัน ก็เริ่มเงียบหายทีละเล็กละน้อยตามอายุอานามที่มากขึ้นและผลงานก็ดร็อปลงไปเรื่อยๆ ทีมสุดท้ายที่เขาค้าแข้งด้วยก็คือ ทีม คิตฉี ของไชน่า ลีก






ส่วนในระดับทีมชาตินั้น ฟอร์ลันประเดิมสนามให้กับอุรุกวัยเมื่อวันที่ 27 มีนาคมปี 2002 และก็ยิงประตูได้ทันทีในเกมอุ่นเครื่องที่เอาชนะซาอุดิอาระเบียไป 3-2 และในการเตะฟุตบอลโลก 2002 เขาก็ยิงได้ด้วยในเกมที่เสมอกับเซเนกัลไป 3-3 ในรอบแบ่งกลุ่ม

ชื่อเสียงของเขามาโด่งดังเอาสุดๆ ก็ตอนฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เอดินสัน คาวานี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้ทีมชาติอุรุกวัยคว้าอันดับที่ 4 มาครองได้ และถัดมาในปี 2011 อาชีพค้าแข้งในระดับทีมชาติของเขาก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุดเมื่อพาทีมคว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2011 หลังจากเอาชนะปารากวัยไปได้ 3-0 ในนัดชิงชนะเลิศ

เกียรติประวัติ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
พรีเมียร์ลีก: 2002–03
เอฟเอ คัพ: 2003–04
เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์: 2003
บียาร์เรอัล
ยูฟ่า อินเตอร์โตโต้ คัพ: 2004
แอตเลติโก มาดริด
ยูฟ่ายูโรปาลีก: 2009–10
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2010
อินเตอร์นาซิอองนาล
กัมเปโอนาโต เกาโช: 2013
ทีมชาติอุรุกวัย
โคปาอเมริกา: 2011

images credit : http://www.lacalderadeldiablo.net/

images credit : http://www.thehardtackle.com/

images credit : https://weallfollowunited.com/

images credit : https://www.gq-magazine.co.uk/

images credit : https://talksport.com/

images credit : https://www.football365.com/

images credit : https://www.sporf.com/

images credit : https://www.skysports.com/

images credit : https://eldiariony.com/