หนึ่งในตำนานนักเตะอังกฤษ ที่ทำประตูได้สูงเกินร้อยประตูในอาชีพค้าแข้ง”ดิออน ดับบลิน”

ตำนานนักเตะ ดิออน ดับบลิน หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกิด 22 เมษายน 1969 ที่ เลสเตอร์ อังกฤษ ดิออน ดับบลิน ในวัยเยาว์นั้นอาศัยอยู่ในบ้านที่ตั้งอยู่บนถนนฟิลเบิร์ต ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามฟิลเบิร์ต สตรีท อดีตรังเหย้าสุดคลาสสิคของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งแน่นอนว่าการเป็นเด็กท้องถิ่นของเมืองแห่ง จิ้งจอก ที่ผู้คนส่วนใหญ่คลั่งไคล้ในเกมกีฬาลูกหนังอยู่แล้ว เจ้าตัวก็ต้องเข้ารับการฝึกอบรมฝีเท้าในระดับเยาวชนกับทีมเล็ก ๆ ในเมืองเมื่ออายุ 9 ขวบต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 15 ปี โดย ดับบลิน คลั่งไคล้ในฝีเท้าของ แกรี่ ลินิเกอร์ (ตำนานจิ้งจอกสีน้ำเงิน)จนเขามองเป็นแบบอย่างในอาชีพค้าแข้ง

ดิออน ดับลิน เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งอย่างเป็นทางการโดยเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กกับ “เจ้านกขมิ้น”นอริช ซิตี้ แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เลยจนย้ายไปอยู่กับ แคมบริดจ์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนสิงหาคม 1988 และกับสโมสรใหม่นี่เองที่เห็นแววความเป็นดาวยิงของเขา ดับลินจึงถูกดันขึ้นไปยืนเป็นกองหน้าพร้อมกับถล่มประตูช่วยให้ทีมเกือบที่จะเลื่อนชั้นได้สำเร็จ แต่ในนัดเพลย์ออฟเลื่อนชั้นไปแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ 5-0 และพลาดการขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศไปอย่างน่าเสียดาย โดย ดับลิน ค้าแข้งอยู่ที่นี่เป็นเวลาถึง 4 ฤดูกาล และยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ กลายเป็นดาวยิงสูงสุดของ แคมบริดจ์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่มีใครมาลบสถิติลงได้จนถึงปัจจุบัน

ต่อมาในปี 1992 ดิออน ก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ลีกสูงสุดของประเทศเป็นครั้งแรก เมื่อ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้ที่กลายมาเป็นบรมกุนซือของทีมปีศาจแดงได้มองเห็นถึงแววเก่งจากฝีเท้าของคนหนุ่มวัย 23 ปี จึงตัดสินใจขนเงินจำนวน 1 ล้านปอนด์มาสู่ขอมาจาก แคมบริดจ์ ยูไนเต็ด






ดิออน มีความขยันมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อม และพยายามหาหนทางทำประตูเพื่อทีมอยู่เสมอ เขาเปิดตัวได้ดีกับสโมสรใหม่นี้ จำได้ว่าเกมนี้เขาได้ลงสนามในเกม แมนฯยู แข่งกับ เซาแธมป์ตัน แถมเจ้าตัวก็ประเดิมสนามด้วยการทำประตูได้อีกด้วย และเกมนั้น แมนฯยู เอาชนะไปได้ แต่ความซวยมาเยือน ดิออน ดับลิน เร็วเกินคาด เพราะอีกสองเกมหลังจากนั้น ดับลิน ดันขาหักในเกมจนต้องพักนานถึง 8 เดือนเต็ม แล้วทีมก็ยังไปคว้าตัว เอริค คันโตน่า ที่เล่นในตำแหน่งเดียวกับมาร่วมทีม เพื่อแก้ขัดสถานะการณ์ไปก่อน

แต่อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเขากับปีศาจแดง เริ่มที่จะไม่สวยหรูแล้ว เพราะกองหน้าที่หวังนำมาแก้ขัดอย่าง เอริค คันโตน่า ดันทำผลงานเปรี้ยงปร้างอย่างต่อเนื่อง จน อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผจก.ของทีมชอบอกชอบใจเป็นพิเศษกลายเป็นลูกรักของทีมไปอย่างไม่ต้องสงสัย และหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ ดับลิน ต้องใช้เวลากว่า 5 เดือนในการปรับตัวเพื่อให้ชินหลังจากหายเจ็บกลับมาอีกครั้ง แต่ด้วยเขากลายเป็นตัวเลือกรองต่อจาก คันโตน่า เขาจึงตัดสินใจย้ายออกจากทีม ปีศาจ แดง และเหลือไว้แต่ความทรงจำที่ดีที่นี่

ดิออน ดับลิน เลือกสถานีถัดไปคือสโมสร โคเวนทรี ซิตี้ ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ และที่นี่เองเป็นทีมที่ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขากลับมาอยู่ในระดับเดิมอีกครั้ง ด้วยการซัลโวไปทั้งสิ้น 61 ประตูจากการลงเล่น 145 นัดตลอดระยะเวลาที่อยู่กับทีม โคเวนทรี จนกลายเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีก และถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษในปี 1998 ได้อย่างสง่าผ่าเผย

ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเอง ยอดทีมอย่าง แอสตัน วิลล่า ก็ไม่รอช้าในความพีคของ ดับลิน จัดการคว้าตัวเขาไปร่วมทัพ โดยที่ดีลดังกล่าวนั้นมีมูลค่ามากถึง 5.5 ล้านปอนด์เลยทีเดียว แน่นอนว่าดิออน ก็ไม่ทำให้แฟนๆรวมไปถึงผู้บริหารทีมสิงห์ผงาดต้องผิดหวัง เมื่อเจ้าตัวซัดไปถึง 7 ประตู จากการลงเล่น 3 เกมแรกให้กับทีม อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อเส้นกราฟเส้นใดนั้นพุ่งขึ้นจนถึงจุดสูงสุด ก็จะดิ่งกลับลงมาอยู่ในจุดที่ต่ำกว่าอีกครั้งเฉกเช่นเดียวกับช่วงชีวิตของนักเตะทุกคนที่ต้องเผชิญ

ดับลิน ที่กำลังไปได้สวยกับ “วิลล่า” แต่กลับต้องได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนถึงขั้นกระดูกต้นคอเคลื่อน และอาจจะต้องนั่งอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิตด้วยซ้ำไป แต่เขาพยายามอย่างหนักในการฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาค้าแข้งในสิ่งที่เขารักให้ได้ และแค่ 3 เดือนและสามารถกลับมาโลดแล่นบนสังเวียนลูกหนังได้อีกครั้ง พร้อมฝากผลงานไว้ในถิ่นวิลล่า พาร์ค ไว้ด้วยการส่งบอลไปกองก้นตาข่ายถึง 48 หนจากการลงเล่น 155 เกม ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่อยู่ที่นั่น






ในปี 2004 อายุอานามของ ดิออน ดับลิน ก็ปาเข้าไปถึง 35 ปีแล้ว และนั่นคงถึงจุดเสื่อมถอยของนักเตะที่หลายๆคนรู้กันดี แน่นอนว่าในช่วงวัยดังกล่าว บ่งบอกถึงช่วงขาลงของเจ้าตัวแล้ว จึงเป็นเหตุให้ ดิออน ตัดสินใจย้ายกลับบ้านเกิดไปอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในปีเดียวกันนั่นเอง หลังจากค้าแข้งอยู่กับทีม “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เพียงแค่ 2 ฤดูกาล ดับลิน ก็ย้ายไปประสบความสำเร็จกับ เซลติก ทีมดังของสกอตแลนด์ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยการคว้าแชมป์สก็อตติช พรีเมียร์ลีก และสก็อตติช ลีก คัพ ในฤดูกาล 2005-2006 ก่อนจะหวนกลับไปแขวนสตั๊ดกับ นอริช ซิตี้ ในปี 2008

ปัจจุบัน ดิออน ดับลิน ผันตัวมาเป็นกูรูนักวิเคราะห์เกมลูกหนังของประเทศ อังกฤษ รวมไปถึงรายการทีวีวงการอสังหาริมทรัพย์ ส่วนในสีเสื้อทีมชาติอังกฤษนั้น ดับลิน ติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1998 แม้จะโชว์ฟอร์มที่ดีและเก่งกาจตลอดในการลงสนาม แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะให้กุนซือทีมชาติแฮปปี้ได้ เขาติดทีมชาติอังกฤษ 4 นัดแต่ทำประตูไม่ได้เลย จึงทำให้ระยะหลังชื่อเขาจึงหลุดออกจากทีมชาติไปโดยปริยายนั่นเอง

เกียรติประวัติ
แคมบริดจ์ ยูไนเต็ด
-ฟุตบอลลีก ดิวิชั่นสาม: 1990–91
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
-พรีเมียร์ลีก: 1992–93
-เอฟเอ แชริตี้ ชิลด์: 1994
แอสตัน วิลล่า
-ยูฟ่าอินเตอร์โตโต้ คัพ: 2001
เซลติก
-สก็อตแลนด์ พรีเมียร์ลีก: 2005–06
-สก็อตติช ลีก คัพ: 2005–06

images credit : https://www.bbc.com/

images credit : https://www.theguardian.com/

images credit : https://www.premierleague.com/

images credit : https://www.hitc.com/

images credit : https://www.ccfc.co.uk/

images credit : https://www.ccfpa.co.uk/

images credit : https://www.birminghammail.co.uk/

images credit : https://www.pinterest.co.uk/

images credit : https://www.leeds-live.co.uk/

images credit : https://www.planetfootball.com/