ตำนานแข้งชาวฝรั่งเศส ที่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล

เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ตำนานแข้ง อาร์เซน่อล ยอดทีมพรีเมียร์ลีก อดีตนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียง เกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1970 ที่เมืองเดียป ประเทศฝรั่งเศส

ที่ราชรัฐโมนาโก นี่เองที่ เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ประสบความสำเร็จอย่างมาก และฉายแววโดดเด่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวตัดเกม ที่เล่นได้ดุดันขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูเหมือนเป็นหนุ่มเจ้าสำอาง โดยได้ร่วมงานกับยอดกุนซืออย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ปลุกปั้นดาวเตะขึ้นมาหลายราย




ในช่วงแรกนั้น เปอตีต์ มักถูกส่งลงเล่นในบทบาทเซนเตอร์แบ็ก ซะเป็นส่วนใหญ่และก็เป็น เวนเกอร์ นั่นเอง ที่ทำการตัดแต่งพันธุกรรมให้เขาขึ้นมาเล่นกองกลางและให้ยืนจับคู่กับเพื่อนร่วมชาติอย่าง ปาทริค วิเอร่า ในสมัยที่ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซน่อล

กลับมาตอนอยู่ โมนาโกกันก่อน โดยกับสโมสร โมนาโก เขาคว้าแชมป์มาทั้ง ลีก เอิง , เฟร้นช์ คัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ ก่อนจะจับเครื่องบินมุ่งหน้าสู่เกาะอังกฤษ มาสร้างชื่อเสียงของตนเองให้เพิ่มพูนมากขึ้น ด้วยการย้ายมาร่วมงานกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ในปี 1997

อย่างที่บอกไป เมื่อย้ายมาร่วมงานกับ เวนเกอร์ ที่ อาร์เซน่อล เขาถูกดันให้ขึ้นมายืนเป็นมิดฟิลด์ และก็เป็นตำแหน่งที่สร้างชื่อให้เขาอย่างแท้จริง เปอตีต์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ร่วมกับทีมที่มีกลุ่มผู้เล่นฝีเท้าดีมากมาย เช่น เดนนิส เบิร์กแค้มป์, มาร์ค โอเวอร์มาร์ และ นิโกล่า อเนลก้า จนพาทีมก้าวไปคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งพรีเมียร์ ลีก และ เอฟเอ คัพ มาครองได้ในฤดูกาล 1997-1998

ฤดูกาลต่อมา เขาก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงานที่ดีเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความหนักหน่วงมากขึ้นในการเล่นฟุตบอลที่อังกฤษ จนหลายครั้งทำให้เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ผลที่ตามมาคือการโดนลงดทษแบนหลายนัด อีกทั้งปัญหาเรื่องการเล่นหนัก ยังทำให้เขามักถูกเพ่งเล็ง เป็นพิเศษจากทีมงานผู้ตัดสินอีกด้วย



จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาเกือบจะย้ายทีม แต่ก็ได้ อาร์แซน เวนเกอร์ ช่วยเกลี้ยกล่อมเอาไว้เขาจึงอยู่ต่อ โดยเบ็ดเสร็จแล้วเขารับใช้ อาร์เซน่อล อยู่ประมาณ 3 ซีซั่น ก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาดด้วยการย้ายไป ร่วมทีมยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่าง บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2000

แต่ชีวิตของเขาในแคว้นคาตาลันนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บวกกับฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวา และไม่ดีเหมือนสมัยเล่นให้กับ อาร์เซน่อล ทำให้เขาอยู่กับทีมบาร์ซ่า ได้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น ก็ต้องระหกระเหินกลับมายังอังกฤษอีกครั้ง

การกลับมาอังกฤษครั้งที่สอง เอ็มมานูเอล เปอตีต์ เลือกจะข้ามฝากไปอยู่กับ เชลซี สโมสรคู่ปรับ ร่วมกรุงลอนดอนของ อาร์เซน่อล แต่ด้วยวัยที่มากขึ้นทำให้เขาไม่อาจรีดฟอร์มเก่งออกมาได้ดั่งเดิม ผนวกกับอาการบาดเจ็บรุมเร้าบ่อยครั้ง โดยสี่ปีในถิ่นเดอะ บริดจ์ เขาลงเล่นไปเพียง 55 นัดเท่านั้น

แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่เขาก็ยังคงได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติฝรั่งเศสไปลุยฟุตบอลโลก ปี 1998 ซึ่งจัดขึ้นบนแผ่นดินบ้านเกิด โดยในทัวร์นาเม้นท์นั้น เขาลงสนามเป้นตัวจริง 6 นัด จากทั้งหมด 7 เกมและเป็นคนยิงหนึ่งประตูในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่เอาชนะบราซิล ไปด้วยสกอร์ 3-0



ซึ่งนอกจากจะเป็นการพาทีมชาติคว้าแชมป์โลกครั้งแรกได้แล้วนั้น ประตูที่เขาทำได้มันยังเป็นประตูที่ 1,000 ในประวัติศาสตร์ของทีมชาติฝรั่งเศส(ประตูรวมนักเตะตั้งแต่การแข่งขันของทีมชาติฝรั่งเศส) อีกด้วยและแม้จำนวนการลงเล่นจะลดลงในศึกยูโร 2000 แต่เขาก็ถือเป็นกำลังหลักของทีมตราไก่ ในการคว้าแชมป์ยุโรปมาครอง

ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2004-2005 เอ็มมานูเอล เปอตีต์ วัย 34 ปี กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดเพราะหมดสัญญา และไม่อาจหาสโมสรเล่นได้ เขาจึงตัดสินใจแขวนสตั๊ดยุติการค้าแข้งในเดือนมกราคมปี 2005




เกียรติประวัติ
โมนาโก
แชมป์ดิวิชั่น 1 : 1996–97
แชมป์กุปเดอฟร็องส์ : 1990–91
อาร์เซน่อล
แชมป์พรีเมียร์ลีก : 1997–98
แชมป์เอฟเอคัพ : 1997–98
รองแชมป์เอฟเอแชริตีชีลด์ : 1998, 1999
ทีมชาติฝรั่งเศส
แชมป์ฟุตบอลโลก : 1998
แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป : 2000
เกียรติประวัติส่วนตัว
ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน : เมษายน 1998
ทีมพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมแห่งปีสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ : 1998-99

credit : https://historyofsoccer.info/

images credit : https://www.dailymail.co.uk/

images credit : https://www.hellomonaco.com/

images credit : https://www.egypttoday.com/

images credit : https://www.thesun.co.uk/

images credit : https://www.fcbarcelonanoticias.com/

images credit : https://www.mirror.co.uk/

images credit : https://www.arsenal.com/

images credit : https://www.dreamteamfc.com/

images credit : https://www.sportsjoe.ie/

images credit : https://dailycannon.com/