จอร์จี้ ฮาจี้ ฉายา”มาราโดน่าแห่งคาบสมุทรบอลข่าน” นักเตะที่ดีที่สุดของ โรมาเนีย

จอร์จี้ ฮาจี้ ฉายา”มาราโดน่าแห่งคาบสมุทรบอลข่าน” ฮาจี้ คือตำนานลูกหนังตลอดกาลของ ชาว ผีดิบ โรมาเนีย ด้วยการถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ โรมาเนีย จอร์จี้ ฮาจี้ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ปี 1965 ที่ซาเซเล่ ย่านเล็กๆ ในเมืองคอนสแตนต้า ประเทศโรมาเนีย และฮาจี้ จัดว่า มีเชื้อสายมาซิโดเนีย อยู่ในตัว เพราะปู่ของฮาจี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของ มาซิโดเนีย ด้วยเหตุนี้เอง ในวัยเด็กของฮาจี้ ทำให้เขา เดินทางไปมาระหว่าง มาซิโดเนีย และ โรมาเนีย อยู่บ่อยครั้ง และเพียงแค่สองขวบ เท้าซ้ายอันสุดฉมังของเจ้าหนูฮาจี้ ก็เริ่มฉายแววตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อได้เข้าร่วมทีมเยาวชนท้องถิ่นเมืองโคอิซิอู แถบชายแดน โรมาเนีย-มาซิโดเนีย เพราะความเห็นดีเห็นงาม จากครอบครัว

สไตล์การเล่นของ จอร์จี้ ฮาจี้ ถูกย่องว่าเล่นคล้าย มาราโดน่า มีทั้งลูกจ่ายบอล วางบอลแม่นยำ การเลี้ยงบอลสไตล์ซ้ายธรรมชาติ ลูกยิงไกล ลูกฟรีคิกที่เด็ดขาดมาก โดยเฉพาะลูกยิงใบไม้ร่วง แบบทีเผลอ ที่มักจะทำให้ผู้รักษาประตูงงไปตามๆ กัน จอร์จี้ ฮาจี้ แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ด้วยการนำทัพพาทีมชาติ โรมาเนีย เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของทีมชาติ เป็นนักเตะที่ เปเล่ ให้การยกย่องอย่างมาก ทำให้แฟนบอลรู้จักกันทั่วโลกในนาม เพลย์เมกเกอร์แห่งโรมาเนีย

มาที่สโมสรแรกที่สร้างชื่อให้กับเขาในอาชีพค้าแข้งกันก่อน “สเตอัว บูคาเรสต์ ” นี่คือสโมสรในลีกบ้านเกิดของ ฮาจี้ และยังเป็นสโมสรที่เจ้าตัวระเบิดฟอร์มระดับโลกออกมา และได้รับความสนใจจากทีมชั้นนำมากมาย เขาเบิกสกอร์ให้กับต้นสังกัดได้เป็นกอบเป็นกำจนได้รางวัลดาวยิงสูงสุดของลีกโรมาเนีย 2 สมัยซ้อนเลยทีเดียวจากตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรุก พ่วงด้วยแชมป์ลีก 3 สมัย แชมป์ฟุตบอลถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และแชมป์รายการย่อยๆอีกมากมาย เรียกว่าที่นี่กับ สเตอัว บูคาเรสต์ เขาเป็นพระเจ้าของทีมเลยทีเดียว






สโมสรต่อมาของ ฮาจี้ “เรอัล มาดริด”ทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป และ ลาลีกา สเปน ฮาจี้ ย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ได้สวมเบอร์ 10 อันเป็นเบอร์เสื้อในตำนานของสโมสรแห่งนี้ แต่ทว่า ฮาจี้ กลับเดินเข้าๆออกๆระหว่างตัวจริงกับตัวสำรองซะมากกว่า เพราะในเรื่องของการปรับตัว และยังมีปัญหาในเรื่องอาการบาดเจ็บรุมเร้าในช่วงหลังๆ เลยทำให้ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่สำเวทีแห่งนี้ แต่กระนั้นแล้ว และทุกครั้งเมื่อเขาได้ลงสนามก็ไม่เคยพลาดที่จะฝากประตูให้กับแฟนบอล มาดริด ได้ชื่นใจหลายต่อหลายประตู โดยเฉพาะกับลูกยิงไกล 40 หลาเกือบครึ่งสนามใส่ทีม โอซาซูน่า จนเนข่าวฮือฮาในครั้งนั้น

สโมสรต่อมาของ ฮาจี้ “เบรสชา” หลังจากที่เริ่มหมดความมั่นใจในการเล่นให้กับ มาดริด เขาจึงตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ เบรสชา เป็นทีมเล็กๆใน อิตาลี ซึ่งที่นี่ตัวของ ฮาจี้ สามารถระเบิดฟอร์มเทพออกมาได้อีกรั้ง แม้ว่าในฤดูกาลแรกกับ เบรสชา เขาจะไม่สามารถช่วยทีมรอดในการหนีตกชั้นได้ แต่สุดท้ายในฤดูกาลที่ 2 ของเขากับทีม และยังเป็นฤดูกาลสุดท้ายของจอมทัพทีมชาติ โรมาเนียที่เล่นให้กับ เบรสซา เขาก็ทั้งยิงทั้งจ่ายจนช่วยทีม เบรสชา คว้าอันดับ 3 ในเซเรียบี ได้สำเร็จ ได้เลื่อนชั้นกลับไปยัง เซเรียอา อีกครั้ง ซึ่งมันเป็นการอำลาทีมที่ยิ่งใหญ่อย่างมากเลยทีเดียวสำหรับแข้งชาว โรมาเนีย

หลังจากหมดสัญญากับ เบรสชา ฮาจี้ โยกกลับมาค้าแข้งที่สเปนอีกครั้ง คราวนี้มาเล่นให้ บาร์เซโลน่า อีกหนึ่งทีมใหญ่ของ ลาลีกา สเปน โดย ฮาจี้ หวังว่าตัวเองจะแก้ตัวให้ได้ในลีกนี้อีกครั้ง หลังล้มเหลวไม่เป็นท่ากับ มาดริด โดยครั้งนี้ ฮาจี้ หวังว่าจะได้ร่วมงานกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานผุ้จัดการทีมชาวดัตช์ที่เขาหลงใหลและอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด แต่สุดท้ายความหวังที่จะได้ร่วมงานกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ก็ได้พังทลายลง เขาได้ย้ายเข้าเป็นจังหวะที่สโมสร บาร์เซโลน่า ปลดผู้จัดการทีมรายนี้ออกจากทีม เป็นการสวนทางกันพอดีอย่างน่าเสียดายที่สุด เพราะ ฮาจี้ เลือกมา บาร์ซ่า ก็เพราะมี โยฮัน ครัฟฟ์ คุมทีมนั่นเอง

ด้วยการที่ไม่ได้ร่วมงานกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ทำให้สภาพจิตใจของ ฮาจี้ ไม่ค่อยจะมีแรงผลักดันซักเท่าไหร่ แถมมีอาการบาดเจ็บรบกวนไม่ต่างจากสมัยอยู่ มาดริด ก็ไม่ปาน เพราะตลอด 2 ปีกับทีมนั้น ฮาจี้ เจออาการบาดเจ็บรบกวนและเดินเข้าๆออกๆในทีมตัวจริงซะส่วนใหญ่ จนสุดท้ายเขาเลือกที่จะเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้จุดหมายปลายทางอยู่ที่ แดนไก่งวง ตุรกี เขาร่วมทีมกับ กาลาตาซาราย นี่คือสโมสรแห่งสุดท้ายในอาชีพของ ฮาจี้ และตอนนั้นใครก็เริ่มคิดว่าด้วยวัย 30 ปีของเพลย์เมกเกอร์รายนี้ มันอาจจะยากแล้วที่จะเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้






ทว่ากูรูหลายฝ่ายต่างคิดผิดที่ดูแคลน ฮาจี้ เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่อยู่กับ กาลาตาซาราย ฮาจี้คือพระเจ้าของที่นี่ เขาคือจอมทัพหมายเลข 10 สุดคลาสสิกที่สามารถยิงประตูได้มากมายตลอด 5 ปีที่อยู่กับทีม จนเป็นตำนานของที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งแน่นอนว่าเขาฟาดแชมป์ลีกตุรกีไปครองถึง 4 สมัยซ้อนเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับบอลถ้วยของลีกอีกมากมาย

เกียรติประวัติ
สเตอัว บูคาเรสต์
แชมป์ดิวิชั่น เอ: 1986–87, 1987–88, 1988–89
โคปา โรมาเนีย: 1986–87, 1988–89
ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ: 1986
รองชนะเลิศถ้วยยุโรป: 1988–89
เรอัล มาดริด
ซูเปอร์โกปา เด เอสปาญา : 1990
เบรสชา
แองโกล-อิตาลี คัพ: 1993–94
บาร์เซโลน่า
ซูเปอร์โกปา เด เอสปาญา: 1994
กาลาตาซาราย
แชมป์ลีก: 1996–97, 1997–98, 1998–99, 1999–2000
ตุรกี คัพ: 1998–99, 1999–2000
ตุรกี ซูเปอร์ คัพ: 1996, 1997
ยูฟ่าคัพ: 1999–2000
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2000

images credit : https://beyondthelastman.com/

images credit : https://www.ultimafaza.ro/

images credit : https://www.marca.com/

images credit : https://thesefootballtimes.co/

images credit : https://www.soccerzz.com/

images credit : https://habermotto.com/

images credit : https://www.beinsports.com.tr/

images credit : https://sportmob.com/