ยาป สตัม กองหลังที่ป๋ากี้โปรดปรานที่สุด แต่ดันเกิดความบาดหมางจึงโดนขายทิ้งไป

ยาป สตัม หากพูดชื่อนี้ขึ้นมา แฟนผีแดงต้องบอกว่าอ๋อทันที เขาคือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของป๋ากี้ คนหนึ่งเลยทีเดียว เสียดายที่ร่วมงานกันได้เพียงไม่กี่ฤดูกาลเท่านั้นจากควมขัดแย้งเล็กๆน้อยๆต่อกุนซือ ทำให้ต้องโดนข้ายทิ้งก่อนเวลาอันควร และในทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นกองหลังที่ดุดัน แข็งแกร่ง และอ่านเกมเก่ง จนกองหน้าหลายคนขยาดไม่อยากปะทะด้วย

โดย สตัม เกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 1972 เมือง แคมเปน เนเธอร์แลนด์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมฟุตบอลท้องถิ่นที่มีชื่อว่า ดีโอเอส แคมเปน จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม 1992 สตัมก็ได้ประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพกับ เอฟซี ซโวลล์ เขาได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่อย่างสม่ำเสมอ ก่อนที่จะย้ายไปเล่นในระดับเอเรดิวิซี่ (ลีกสูงสุด) กับ คัมบูร์ ในฤดูกาลต่อมา

อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องตกชั้นกับทีมจนทำให้ต้องลงมาเล่นใน แอร์สท ดิวิซี่ อีกครั้ง แต่หลังจากเล่นให้คัมบูร์อยู่ 2 ฤดูกาลเขาก็ได้เลื่อนชั้นกลับขึ้นไปเตะในเอเรดิวิซี่อีกด้วยการย้ายไปเล่นกับ วิลเล่ม ทเว ที่นั่นเขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ รวมถึงแมตช์ที่พาทีมเปิดบ้านเอาชนะอาแจ็กซ์ไปได้แบบสุดช็อค 1 – 0 ไปเตะตากุนซือของ พีเอสวี และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ดึงตัวเขามาเล่นด้วยในฤดูกาลเดียวกันนั้นเอง ซึ่งเขาก็ได้แชมป์เคเอ็นวีบี คัพ ร่วมกับต้นสังกัดใหม่ทันที ถือเป็นถ้วยแชมป์แรกที่เขาคว้ามาครองได้ในฐานะนักเตะอาชีพ

ในปี 1998 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ดึงตัวสตัมมาเสริมแกร่งในแผงหลัง และเขาก็ได้ค้าแข้งกับทีมปีศาจแดงอยู่ 3 ฤดูกาล ในระหว่างนั้นเขาพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้ทั้ง 3 ปีที่ลงเล่น รวมถึงแชมป์เอฟเอ คัพ, อินเตอร์คอนทิเนนทัล คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกอย่างละสมัยด้วย โดยตลอดการลงเล่นกับสโมสรแห่งนี้

 

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อยากได้ สตัม มากๆแต่ด้วยการที่แอบคุยส่วนตัวข้ามหัวต้นสังกัดอย่าง พีเอสวี จนทำให้ทีมดังเนเธอร์แลนด์รู้สึกโกธรเคือง แต่ด้วยข้อเสนอจากฝั่งทีมดังเกาะอังกฤษที่ยากจะปฏิเสธ สุดท้าย พีเอสวีก็ขาย สตัม ให้ แมนฯยูในที่สุด ด้วยค่าตัว 6.9 ล้านปอนด์




สตัม เริ่มต้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะในนัดเปิดสนาม ศึก แชริตี้ ชิลด์ กับ อาร์เซน่อล ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต่างๆนานาว่าจะดีจริงรึเปล่ากับแบ็กชาวฮอลแลนด์รายนี้ โดยเขาบอกว่า “ตอนนั้นผมไม่สงสัยในตัวเองเลย ผมมั่นใจว่าจะพัฒนาตนเองขึ้นมาได้ และสโมสรก็ตามดูตัวผมมานาน เฟอร์กูสัน รู้ดีว่าผมเป็นคนเรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้”

ยาป สตัม ย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดงในปี 1998 ซึ่งท้ายฤดูกาลนั้น ทีมสร้างตำนานคว้า 3 แชมป์มาได้สำเร็จ ซึ่งเขาเปิดเผยว่าทีมชุดนั้นเต็มไปด้วยสปิริต ความเข้มแข็ง โฟกัสกับทุกเกมส์ ไม่มีประมาทแม้แต่น้อย หลายทีมต้องตั้งรับเวลาเจอกับแมนฯ ยูไนเต็ด และบอกว่าความฟิตก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ที่ช่วยให้ทีมสามารถทำประตูในช่วงท้ายเกมส์ได้บ่อยๆ

ในปี 2001 ปีศาจแดงทุ่มเงินมหาศาลในการคว้าตัว ฆวน เซบาสเตียน เวรอน และ รุด ฟาน นิสเตลรอย มาร่วมทีม เสียค่าใช้จ่ายไปเยอะมาก ทำให้จำเป็นต้องปล่อยนักเตะบางคนออกไปเพื่อหารายได้มาจ่ายค่าตัวสองคนนี้ ซึ่งสตัม เปิดเผยว่านอกจากตัวเขาแล้วที่จะโดนปล่อยตัวยังมี คีน, กิ๊กส์ และ แกรี่ เนวิลล์ ก็อยู่ในข่าย

หลังจากนั้นไม่นาน เซอร์อเล็กซ์ ก็โทรหาเขาจริงๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะนัดพบกันกลางทาง และเปิดเผยว่ามีข้อเสนอที่ดี และเขาก็ตัดสินใจรับไปแล้ว พร้อมทั้งสโมสรก็ได้กองหลังตัวแทน สตัม แล้ว อย่าง โลร็องต์ บล็องก์ ก่อนที่เขาจะรู้ภายหลังว่าเขาจะได้ย้ายไปร่วมทีม ลาซิโอ สตัม ยอมรับว่าเขาควรพูดว่า “ผมอยากอยู่กับทีมนี้ต่อ ผมยังมีสัญญาที่นี่ สัญญาระยะยาวด้วย จะเป็นตัวสำรองไปก็ได้” แต่ทุกคนรู้ว่าผมเป็นอย่างไร นิสัยใจคอผมเป็นอย่างไร ผมไม่มีวันยอมเป็นตัวสำรอง เขาจึงตัดสินใจย้ายทีม โดยการพูดคุยใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นจากปาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สุดท้ายเขาก็จำใจต้องย้ายไปยังเวที เซเรีย อา อิตาลี

ทางสื่อดังของอังกฤษอ้างว่า หนึ่งในสาเหตุที่เขาถูก เฟอร์กูสัน เขี่ยทิ้งหนึ่งในนั้นมีสาเหตุมาจาก เพราะว่าดันไปเขียนอัตชีวประวัติที่ชื่อว่า Head to Head(เฮดทูเฮด)ยิ่งไปกว่านั้นคือ พาดพิงแฉ เฟอร์กี้ กุนซือของทีมด้วย และนั้นทำให้สร้างความไม่พอใจจาก เฟอร์กี้ ในทันที โดยในสีเสื้อ “ผีแดง” นั้นสตัม ฝากผลงานคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัยและ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

ด้านอาชีพค้าแข้งในระดับทีมชาติของ สตัมนั้น เขาประเดิมสนามให้กับทีมชาติฮอลแลนด์เป็นครั้งแรกในวันที่ 24 เมษายน 1996 โดยแพ้ให้กับเยอรมันไป 0 – 1 เขาคือนักเตะคนสำคัญที่ช่วยให้ทีมอัศวินสีส้มคว้าอันดับ 4 ได้ในฟุตบอลโลก 1998

ในการเตะยูโร 2000 ที่ประเทศของเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับเบลเยี่ยม สตัมได้ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกกับทีมชาติฮอลแลนด์อีกครั้ง โดยในคราวนี้เขายิงจุดโทษลูกสำคัญพลาดในช่วงการดวลจุดโทษในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งนั่นมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมต้องพ่ายต่ออิตาลีไป

สตัมยังพาทีมไปเตะในรอบรองชนะเลิศได้อีกเป็นครั้งที่ 3 ในศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส ก่อนที่เขาจะประกาศอำลาทีมชาติหลังจากจบทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าต้องการหันมามีสมาธิกับต้นสังกัดใหม่อย่าง เอซี มิลาน รวมถึงครอบครัวของเขาด้วย รวมแล้วเขาลงเตะให้กับทีมชาติฮอลแลนด์ไปทั้งหมด 67 เกม และยิงประตูได้ 3 ลูก




สตัม เล่นให้ลาซิโอไป 3 ฤดูกาล 2001-04 ช่วยทีมคว้าแชมป์ โคปา อิตาเลีย มาได้หนึ่งสมัย จากนั้นก็ไปเล่นให้ เอซี มิลาน 2004-06 พาทีมคว้าแชมป์ ซุปเปอร์ โคปา 1 สมัย และ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม 2006-07 คว้าแชมป์ ฮอลแลนด์ คัพ 1 สมัย ก่อนแขวนสตั๊ดไปในปี 2007

เกียรติประวัติ
พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น
อีเรดิวิซี: 1996–97
เคเอ็นวีบี คัพ: 1995–96
โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์: 1996, 1997
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
พรีเมียร์ลีก: 1998–99, 1999–2000, 2000–01
เอฟเอ คัพ: 1998–99
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 1998–99
อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ: 1999
ลาซิโอ้
โคปปา อิตาเลีย: 2003–04
เอซี มิลาน
ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า: 2004
อาแจ็กซ์
ฮอลแลนด์ คัพ: 2006–07
โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์: 2006, 2007

images credit : https://www.marca.com/

images credit : https://www.transfermarkt.com/

images credit : https://www.planetsport.com/

images credit : https://www.charitystars.com/

images credit : https://www.lazionews.eu/

images credit : https://www.rtlnieuws.nl/

images credit : https://www.mirror.co.uk/

images credit : https://www.skysports.com/