ตำนานแบ็กขวาของทีม อินเตอร์ มิลาน ที่ได้รับคำยกย่องว่าดีที่สุดของสโมสร

ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ปี 1973 ที่บัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา เมื่ออายุเพียง 5 ขวบ เขาตกหลุมรักเกมฟุตบอลขณะดู ฟุตบอลโลกปี 1978 ที่บ้านเกิดของเขา พอถงวัยรุ่น เขาพยายามเข้าเป็นศูนย์ฝึกเยาวชนของทีมอินเดเพนเดนเต้ ทีมยักษ์ใหญ่แถวนั้น แต่ถูกปฏิเสธในที่สุด โดยบอกว่าเขามีสภาพร่างกายไม่เหมาะที่จะมาเป็นนักฟุตบอล


หลังจากถูกปฏิเสธจากอินเดเพนเดนเต้ ซาเน็ตติ ได้เซ็นสัญญากับ สโมสร ตาเยเรส ทีมจากดีวิชั่น2 โดยเขาลงเล่น 33 นัด ยิงได้ 1ลูก เขาอยู่เพียงแค่ฤดูกาลเดียว ก็ย้ายไปเล่นให้บันฟิลด์ ทีมจากดิวิชั่นแรก เมื่อปี ค.ศ. 1993

ซาเนตติในวัย 20 ปี ได้ลงเล่นกับบันฟิลด์ครั้งแรกเมื่อ 12 กันยายน 1993 แมตช์เปิดบ้านเจอ ริเวอร์ เพลท หลังจากนั้น 17 วัน เขาสามารถยิงประตูแรกได้ในแมตช์ที่เจอ นีเวล โอลด์บอย ซึ่งจบการแข่งเสมอ1–1 การเล่นที่โดดเด่นของเขาทำให้ได้รับความนิยมจากแฟนๆเอล จำนวนมาก อีกทั้งเขาถูกเรียกให้ติดทีมชาติด้วย

 

ทีมยักษ์ใหญ่จากดิวิชั่นแรกอย่าง ริเวอร์ เพลท และโบคา จูเนียร์ส สนใจในตัวเขา แต่ ซาเน็ตติ เลือกที่จะอยู่กับทีมเดิม จนปีค.ศ. 1995 เขาและเพื่อนชาวอาร์เจนตินา เซบาสเตียน แรมเบิร์ต ได้ย้ายมาเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ในอิตาลี ซึ่งนั้นเป็นการซื้อครั้งแรกของประธานสโมสร มัสซิโม โมรัตติ

ในฤดูร้อนปี 1995 ซาเน็ตติ เริ่มต้นการเดินทางให้กับ อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่ของ อิตาลี ในปี 1998 ซาเน็ตติ คว้าแชมป์ถ้วยแรกของเขาให้กับ อินเตอร์ มิลาน หลังจากทำประตูที่สองในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพ 1998 ที่พบกับ ลาซิโอ้ ฤดูกาล 1999 ทำให้เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าทีมแทน จูเซปเป้ แบร์โกมิ ผู้เล่นที่ต่อยอดสูงสุดของ อินเตอร์


ซาเน็ตติ เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการวิ่งขึ้นลงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แฟนบอลทั่วโลกต่างยกย่อง ซาเน็ตติ ในความเป็นผู้นำ และท่าทางที่สงบในสนาม ตลอดอาชีพการงานของเขา กัปตัน อินเตอร์ ได้ย้ายจากปีกตัวรุกด้านขวา สู่มิดฟิลด์ และสุดท้ายในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ

ผู้สื่อข่าวเคยบอกว่า โรแบร์โต บัจโจ เป็นไอดอลของ ซาเน็ตติ อีกด้วย ตลอดอาชีพการงานของเขา ซาเน็ตติ ได้รับความเคารพนับถือจากโค้ช ผู้เล่น และแฟนบอล


ซาเน็ตติ เคยทำงานร่วมกับโค้ช 19 คนในสโมสร อินเตอร์ มิลาน เขาให้สัญญากับตัวเองกับพวกแฟนบอล นัสซูรี่ ว่าในอนาคตหลังจากแขวนสตั๊ด เขาจะกลับมาที่สโมสรอีกครั้ง ในถานะตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในทีมให้ได้อีกครั้ง
ในปี 2002 ซาเน็ตติ ได้ก่อตั้ง มูลนิธิมุ่งช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทางสังคมใน บัวโนสไอเรส จนในปี 2006 เขาได้รับเลือกให้เป็นฑูตสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในอาร์เจนติน่า

2014 หลังจากที่ ซาเน็ตติ แขวนสตั๊ด เขาได้รับโอกาสจากประธานสโมสร อินเตอร์ มิลาน ให้เข้ามาเป็น หนึ่งในผู้บริหารของสโมสรอีกด้วย


ส่วนในสีเสื้อทีมชาติ ซาเน็ตติ ลงเล่นให้ทีมชาติ อาร์เจนติน่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 แมตช์เจอ ชิลี โดยการนำของโค้ช ดาเนียล พาสซาเรลลา เขายังได้รับใช้ทีมชาติด้วยลงเล่นในฟุตบอลโลกปี 1998 และ 2002 อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ได้เหรียญเงินจากโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ที่แอตแลนตา, สหรัฐอเมริกา

ในฟุตบอลโลก 1998 เขาได้ยิงประตูอย่างเฉียบขาดหลังได้ลูกจากฟรีคิกของ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ในแมตช์เจออังกฤษ รอบ16ทีมสุดท้ายทำให้สกอร์กลับมาเป็น 2–2 ก่อนที่อาร์เจนตินาจะมาชนะจุดโทษ 4–3 ผ่านเข้ารอบจนถึงรอบสี่ทีมสุดท้าย พวกเขาต้องมาแพ้ให้ เนเธอแลนด์ ในที่สุด

ซาเน็ตติ ลงเล่นให้ อาร์เจนตินา ภายใต้การคุ้มทีมของ มาร์เซโล เบียลซา ในฟุตบอลโลก 2002 ถึงอย่างนั้นพวกเขาจบที่สามของกลุ่ม แม้จะชนะในนัดแรก แต่ก็ไม่ทำให้ผ่านรอบต่อไปได้


ซาเน็ตติ ฉลองลงเล่นครบ 100 นัดด้วยการพา อาร์เจนติน่า ชนะ เม็กซิโก ในรอบรองชิงชนะเลิศของฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ เมื่อวัน 26 มิถุนาคม ค.ศ. 2005 และเขายังได้แมนออฟเดอะแมตช์นัดนั้นด้วย


ซาเน็ตติ ก็ได้สวมปลวกแขนกัปตันทีม และในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แมตช์เจอ โบลีเวีย 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 เขาได้กลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นเยอะที่สุดตลอดกาลของ อาร์เจนติน่า เขาประกาศเลิกเล่นทีมชาติในปี 2011 นับได้ลงเล่นช่วยทัพ ฟ้า-ขาวไปทั้งสิ้น 145 นัด

เกียรติประวัติ
อินเตอร์ มิลาน
เซเรีย อา 2005–06, 2006–07, 2007–08, 2008–09, 2009–10
โกปปา อีตาเลีย 2004–05, 2005–06, 2009–10, 2010–11
ซูเปอร์โกปปา อีตาเลียน่า 2005, 2006, 2008, 2010
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2009–10
ยูฟ่าคัพ 1997–98
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2010
กับทีมชาติ อาร์เจนติน่า
โกปาอาเมริกา เหรียญเงิน 2004, 2007
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ เหรียญเงิน 1995, 2005
โอลิมปิก เหรียญเงิน 1996
แพนอเมริกันเกมส์ เหรียญทอง 1995

credit : https://www.copa90.com/

images credit : https://www.independent.co.uk/

images credit : https://www.copa90.com/en/all/2015/4/story-of-a-legend-javier-zanetti

images credit : https://www.conmebol.com/

images credit : https://www.movenoticias.com/