อีกหนึ่งตำนานนักเตะ ลิเวอร์พูล จอมยิงไกลที่ดีที่สุดคนหนึ่งยุค 2000 “ยอห์น อาร์เน รีเซ่”

ยอห์น อาร์เน รีเซ่ แข้งขาวนอร์เวย์ หนึ่งในตำนานแข้งหงส์แดง ที่ว่ากันว่ามีพลังเท้าอันหนักหน่วงที่สุดของ ลิเวอร์พูล ยุค 2000 ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลกับ ลิเวอร์พูลนี่แหละ

รีเซ่ เกิด 24 กันยายน ปี 1980 ม็อลเดอ ประเทศนอร์เวย์ อดีตผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย และมิดฟิลด์ด้านซ้าย สำหรับ รีเซ่ ค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงปี 2001-2008 มีส่วนสำคัญในการพา “หงส์แดง” เถลิงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2004-2005 ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายไปค้าแข้งกับอีกหลายสโมสร สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2017 กับทีม โรลออน ในดิวิชั่น 4 นอร์เวย์

รีเซ่ เขาเคยรับใช้ทีมชาติมากว่า 110 นัด เขาเป็นผู้เล่นที่ลงเล่นให้ทีมชาตินอร์เวย์ มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสน์ชาติ เขามีชื่ออยู่ในทีมนอร์เวย์สำหรับ ยูโร 2000 แต่ไม่ได้เล่นในทัวร์นาเมนต์นี้เพราะสภาพร่างกายที่ไม่ฟิต รีเซ่ ทำประตูได้ 16 ประตูก่อนจะอำลาทีมชาติในปี 2013




รีเซ่ เริ่มเล่นฟุตบอลอย่างเต็มตัวกับสโมสร โอเลอซึน ทีมนอกลีกของ นอร์เวย์ เขาอยู่ที่นี่เพาะบ่มฝีเท้าได้สองฤดูกาล จนไปเข้าตาผู้จัดการทีมของ โมนาโก และได้ดึงตัวเขาเข้าร่วมทีมในปี 1998 แต่ยังได้เล่นกับทีมสำรองของ โมนาโก ไปก่อน

ต่อจากนั้น รีเซ่ ก็ถูกซื้อตัวมายังประเทศอังกฤษ อยู่กับทีม ลิเวอร์พูล ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าปลื้มใจแทนครอบครัวของเขาที่ได้จากบ้านมาพร้อมได้ซบแต่ทีมใหญ่ๆ เขาถูกซื้อมาในราคาค่าตัว 4 ล้านปอนด์ ทั้งๆที่มี ฟูแล่ม และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน แต่ รีเซ่ เลือกที่จะซบ ลิเวอร์พูล

เขาประเดิมสนามให้ ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 2001 เกมยูฟ่าซูเปอร์คัพกับ บาเยิร์น มิวนิค เขายิงประตูให้ ลิเวอร์พูล ชนะเกมนี้ 3–2 นอกจากนี้ เขายังทำประตูสำคัญตลอดทั้งฤดูกาลในพรีเมียร์ลีกกับทีมต่างๆ เช่น อาร์เซน่อล เอฟเวอร์ตัน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นที่รักของแฟนบอล เดอะค็อป ไปในทันที

แต่หลังจากนั้นในปีถัดมา รีเซ่ กลับมีผลงานดร็อปลงไปดื้อๆ มีค่าเฉลี่ยผลงานต่ำกว่าในฤดูกาลแรกด้วยซ้ำไป จนหลายคนมองว่าควรจะขายเขาทิ้งเพราะรักษามาตรฐานไว้ไม่ได้ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ถูกขายออกไปเพราะทางผู้จัดการทีมในครั้งนั้นอย่าง เฌราร์ อูลีเย ยังให้โอกาสและเชื่อมั่นว่าแข้งรายนี้จะกลับมาเป็นประโยชน์ต่อทีมได้

รีเซ่ สวมเสื้อหมายเลข 18 แต่ได้เปลี่ยนเป็นเสื้อหมายเลข 6 ในฤดูกาล 2004-05 ซึ่งเป็นหมายเลขเสื้อของกองหลัง มาร์คุส บับเบิล นั้นว่างลง รีเซ่ ยิงได้ 10 ประตูในฤดูกาลแรกกับ ลิเวอร์พูล ถือเป็นผลงานที่สุดยอดมากในครั้งนั้น อีกทั้งเป็นการยิงไกลได้ถึง 50% เลยทีเดียว

ต่อมา รีเซ่ ได้สัญญาฉบับใหม่กับทีมออกไปอีก 3 ปี ทำให้เขากลายเป็นแข้งนอร์เวย์คนแรกที่อยู่กัย ลิเวอร์พูล ได้ยาวนานที่สุดในทันที ซึ่งทาง รีเซ่ ดีใจมากพร้อมประกาศว่าจะอยู่กับ ลิเวอร์พูล จนแขวนสตั๊ดไปเลยทีเดียว

รีเซ่ ช่วยสโมสรคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2005-06 โดยทำประตูในรอบรองชนะเลิศกับ เชลซี และเปลี่ยนความพยายามของเขาในการยิงจุดโทษกับเวสต์แฮมได้สำเร็จในรอบชิงชนะเลิศ

เรื่อยมาจนถึงปี 2008 รีเซ่ ก็กลายเป็นหนึ่งในตำนานของ ลิเวอร์พูล ไปโดยปริยาย เพราะอยู่กับ หงส์แดงมาถึง 7 ปีเต็ม จากนั้นในปี 2007 ลิเวอร์พูล มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งและการเสริมทัพ โดยพวกเขาคว้าตัว ฟาบิโอ ออเรลิโอ เข้ามาอยู่กับทีม และผลงานที่ดีจนเบียด รีเซ่ ครองตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้ายไปได้

สุดท้ายด้วยการนั่งสำรองข้างสนามจนทำให้ รีเซ่ อยู่นิ่งเฉยไม่ได้ จึงขอขึ้นบัญชี ย้ายออกจากทีมไปในที่สุด ในปี 2008 เขาถูกขายให้กับ โรม่า ทีมดัง เซเรีย อา อิตาลี ด้วยค่าตัว 5 ล้านยูโร รวมถึงค่าเหนื่อย 2.8 ล้านยูโรต่อปี กับสัญญา 3 ปี ที่ผ่านมาด้วยสถิติกับ ลิเวอร์พูล รีเซ่ ลงเล่นไปทั้งหมด 234 นัด ยิงไป 21 ประตู

รีเซ่ เข้ามาอยู่ที่นี้ต้องกระตือรือร้นเป็นอย่างมากเพราะต้องการเบียดเจ้าของตำแหน่งคนเดิมไปเป็นตัวเลือกแรกให้ได้ที่นี่ ประตูแรกของ รีอิเซ่ กับ โรม่า คือการเจอกับ อินเตอร์นาซิโอนาล จ่าฝูงในลีก ในการเป็นจ่าฝูงของตาราง




สองเดือนต่อมา เขายิงได้อีกครั้งในสนามเดียวกันกับมิลานด้วยการเตะฟรีคิกที่มุมบนขวา และยังช่วยทำประตูที่สองของโรม่าในเกมด้วย รีเซ่ ได้รับเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์สำหรับเกมนี้

รีเซ่ ด้วยอายุอานามที่มากขึ้น แถมผลงานเริ่มที่จะดร็อปๆลงไป ทำให้ตัวเขามักจะกลายเป็นตัวสำรองอีกครั้งกับแข้งรุ่นน้องของทีม จนสุดท้าย รีเซ่ เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับโรม่าออกไปอีก จนย้ายมาอยู่กับ ฟูแล่ม ในพรีเมียร์ลีก อีกครั้ง ด้วยสัญญา 3 ปี เช่นกัน

ผลงานของ รีเซ่ ไม่ค่อยจะโดดเด่นเหมือนสมัยค่าแข้งกับ ลิเวอร์พูล จนกลายเป็นแข้งพเนจรไปเรื่อยๆ นับได้หลังจากทีม ฟูแล่ม ก็ย้ายไปอีก 5 ทีม ได้แก่ อาโปเอล นิโคเชีย(ไซปรัส) โอดิชา(อินเดีย) อาเลซุนด์(นอร์เวย์) เชนไนยิน(อินเดีย)และ โรออน(นอร์เวย์) ที่ถือเป็นทีมสุดท้ายก่อนจะแขวนสตั๊ดไปในที่สุดด้วยวัย 37 ปี

ในสีเสื้อทีมชาตินอร์เวย์ รีเซ่ ลงช่วยทีมไปทั้งหมด 110 นัด ทำไป 16 ประตู ในชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2000-2013

เกียรติประวัติ
โมนาโก
-ดิวิชั่น 1: 1999–2000

ลิเวอร์พูล
-เอฟเอ คัพ: 2005–06
-ฟุตบอลลีกคัพ: 2002–03
-เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์: 2001, 2006
-ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2004–05
-ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2001, 2005

อาโปเอล นิโคเชีย
-ไซปรัส ดิวิชั่นหนึ่ง: 2014–15
-ไซปรัส คัพ: 2014–15

ส่วนตัว
-นักเตะนอร์เวย์ยอดเยี่ยมแห่งปี: 2006

credit : https://www.footchampion.com/

images credit : https://thesefootballtimes.co/

images credit : https://www.empireofthekop.com/

images credit : https://www.shoot.co.uk/

images credit : https://www.belfastlive.co.uk/

images credit : https://www.hitc.com/

images credit : https://www.eurosport.com/

images credit : https://www.mylondon.news/

images credit : https://www.skysports.com/

images credit : https://www.empireofthekop.com/