มาร์กเซล เดอไซญี ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ทีมชาติฝรั่งเศส และ เอซี มิลาน,เชลซี

ตำนานทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลก 1998 และแชมป์ ยูโร 2002 ที่เป็นแข้งยุค 90′ คนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด มาร์กเซล เดอไซญี เกิดวันที่ 7 กันยายน ปี 1968 ที่เมืองอักกรา เมืองหลวงของประเทศกาน่า ในปี 1972 เขาได้ย้ายมาอยู่ในฝรั่งเศส หลังแม่ของเขาแต่งงานกับทูตชาวฝรั่งเศส

พ่อของเขาอยากให้เขาเข้าสถาบันการศึกษา ทว่าเจ้าหนู เดอไซญี กลับหลงใหลในฟุตบอลมากกว่า และตัดสินใจเข้าไปอยู่ในทีมเยาวชนของน็องต์ ตามพี่ชาย และได้เล่นเคียงข้าง ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ สมัยยังเด็ก ก่อนจะติดทีมสำรองของน็องต์ในวัย 17 ปี และได้ลงเล่นนัดแรกในเกมอาชีพเมื่ออายุ 18 ปี

ด้วยความแข็งแกร่งและแน่นอนของเขา ทำให้ได้รับการจับตามองจากยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศสอย่างรวดเร็ว ในเวลานั้นเขาต้องเลือกระหว่างโมนาโก หรือ มาร์กเซย เมื่อทั้งสองทีมต่างต้องการดึงตัวเขาไปร่วมทีมเมื่อจบฤดูกาล 1991-92 ด้วยกันทั้งคู่

ในที่สุด เดอไซญี เลือกที่จะร่วมทีม มาร์กเซย และได้ร่วมงานกับแข้งดังอย่าง ฟาเบียง บาร์กเตซ, รูดี้ โฟลเลอร์, อแล็ง บ็อคซิก คู่หูในแดนหลังคนใหม่อย่าง บาซิลล์ โบลี รวมถึงเพื่อนร่วมทีมเก่าอย่าง เดส์ของส์ ซึ่งเป็นกัปตันทีมมาร์กเซย
ได้แชมป์ลีกเอิงเมื่อจบฤดูกาล แม้เกียรติประวัติของทีมต้องด่างพร้อยจากกรณีอื้อฉาวที่ประธานสโมสรเจอข้อหาล้มบอล แต่พวกเขาก็ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และต้องดวลกับยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปอย่างเอซี มิลาน

มิลานในเวลานั้นมีนักเตะอย่าง ฟรังโก้ บาเรซี, เปาโล มัลดินี, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด และมาร์โก แวน บาสเทน ซึ่งเป็นแกนหลักของทีมชุดแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สองสมัยในปี 1989 และ 1990 ทีมของ เดอไซญี คือทีมรองบ่อน

ทว่ากลับกลายเป็นพวกเขาที่คว้าแชมป์ได้อย่างสุดเหลือเชื่อ ด้วยการพลิกล็อกเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ บาซิลล์ โบลี และกลายเป็นทีมจากฝรั่งเศสทีมแรกที่ได้ชูถ้วยยูโรเปี้ยน คัพ

หลังจากประสบความสำเร็จกับโอแอ็ม เดอไซญี ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมปีศาจแดง-ดำ เอซี มิลาน และเขาก็ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกสมัย เมื่อเขามีส่วนในการพา มิลาน ถล่มบาร์เซโลนา ในรอบชิงแบบขาดลอย 4-0

นับจากนั้น เขาได้ลงเล่นในเซเรีย อา 130 นัด ก่อนจะคว้าแชมป์เวิลด์คัพได้สำเร็จ ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ เชลซี นานถึง 6 ฤดูกาล เริ่มต้นกับเชลซีเมื่อ ซัมเมอร์ 1998 เอซี มิลาน พยายามลดค่าใช้จ่าย หลังเซ็นนักเตะดังตัวต่างชาติใหม่ ทั้ง เยนส์ เลห์มันน์, โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์, โธมัส เฮลเว็ก, โรเบร์โต้ อยาล่า ไหนจะพวก ซโวนิเมียร์ โบบัน, จอร์จ เวอาห์, เลโอนาร์โด้ ที่มีอยู่แล้วอีก

ทำให้ที่ดีที่สุดในตอนนั้นคือการปล่อยตัวเก่า เดอไซญี่ อยู่ในข่ายนี้ก็พอดี โคลิน ฮัทชินสัน ผู้อำนวยการของ เชลซี ติดต่อเข้ามาซื้อด้วยค่าตัว 4.6 ล้านปอนด์จากเอซี มิลาน เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1998

เป็นเวลา 3 ฤดูกาลที่ เดอไซญี ผนึกกำลังในแนวรับร่วมกับ ฟร็องค์ เลอเบิฟ เพื่อนร่วมชาติของเขา ทั้งคู่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพร่วมกันในปี 2000 จากนั้นอีก 3 สัปดาห์ พวกเขาได้แชมป์ยุโรปกับทีมชาติฝรั่งเศส

ถ้วยแชมป์หนึ่งใบในการค้าแข้ง 6 ปีกับสโมสรอาจเป็นรางวัลที่ไม่เพียงพอต่อพรสวรรค์ของ เดอไซญี เขาลงสนามให้ เชลซี 222 นัด ยิงได้ 7 ประตู ระหว่างการค้าแข้งที่เดอะ บริดจ์ ปราการหลังรายนี้ลงเล่นให้ทีมชาติไป 74 นัด ถือเป็นสถิติของสโมสรซึ่งมีเพียงแค่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ทำได้มากกว่าเขา

เดอไซญี อยู่กับ เชลซี ถึงปี 2004 พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้ 1 สมัยในฤดูกาล 1999-2000 ก่อนที่ช่วงท้ายของอาชีพ จะย้ายไปเล่นในประเทศกาตาร์ กับ สโมสร อัล การาฟา และ กาตาร์ เอสซี ก่อนจะแขวนสตั๊ดไป

ในส่วนของการเล่นในนามทีมชาติ เดอไซญี ได้ลงสนามให้ทีมชาติฝรั่งเศส 116 นัด ยิงได้ 3 ประตู เป็น1ในนักเตะทีมชาติ ฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก ปี 1998 ต่อเนื่องด้วยแชมป์ยูโร ปี 2002

เกียรติประวัติ
โอลิมปิก มาร์กเซย
-ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 1992–93
เอซี มิลาน
-กัลโช่ เซเรีย อา : 1993–94, 1995–96
-ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า : 1994
-ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 1993–94
-ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ : 1994
เชลซี
-เอฟเอ คัพ : 1999–2000
-เอฟเอ แชริตี้ ชิลด์ : 2000
-ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : 1998
อัล การาฟา
-กาตาร์ สตาร์ ลีก : 2004–05
นามทีมชาติฝรั่งเศส
-ฟุตบอลโลก : 1998
-ยูฟ่าแชมเปียนชิปยุโรป : 2000
-ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ : 2001, 2003