มาร์โก ฟาน บาสเท่น ฉายา”เพชฌฆาตพลายกระซิบ” แข้งดีที่สุดตลอดกาลฮอลแลนด์

มาร์โก ฟาน บาสเท่น เจ้าของฉายา”เพชฌฆาตพลายกระซิบ” ที่กุนซือชื่อก้องอย่าง ฟาบิโอ คาเปโล่ ยังยกให้เป็นแข่งที่ดีที่สุดตลอดกาลของเขาอีกด้วย ฟาน บาสเท่น เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1964 ที่อูเทรค ประเทศฮอลแลนด์

เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 6 ขวบ ก่อนที่ อูเทรค จะเริ่มเห็นแวว จึงดึงไปพัฒนาในระบบของเยาวชน และฝึกซ้อมที่นั่นถึง 9 ปี ก่อนที่ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม จะมาดึงตัวไปร่วมงานด้วยเมื่ออายุได้ครบ 16 ปี และความเป็นอัจฉริยะเรื่องการยิงประตู ก็ถูกปลดปล่อยออกมาแบบไม่ต้องรอเวลา

ฟาน บาสเท่น เขาใช้เวลาสองฤดูกาลแรก ในการคลำเป้าได้ 10 ประตู แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขากลายเป็นเครื่องจักรถล่มประตูในตัวเขาก็ทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้ตลอดเวลาที่เขาลงเล่นให้อาแจ๊กซ์ เป็นเวลา 6 ปี เขาสามารถเบิกร่องประตูให้ทีมไปได้รวมทั้งสิ้น 152 ประตู จากการลงเล่น 172 นัด ซึ่งตอนนั้น เขาเพิ่งจะมีอายุเพียง 20 ปีต้นๆเท่านั้น

การย้ายทีมของ ฟาน บาสเท่น เกิดขึ้นในฤดูกาล 1987-88 โดยมี เอซี มิลาน เป็นจุดหมายปลายทาง นี่ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ปัญหาคือโลกฟุตบอลยุคนั้นไม่ได้เซฟนักเตะเก่ง ๆ มากพอ นักเตะประเภทฮาร์ดแมนมีอยู่เต็มสนาม มีนักเตะประเภทนี้ทุกทีม เล่นบอลด้วย เล่นคนก็ได้ อะไรประมาณนั้น เมื่อเขามาอยู่เพียงฤดูกาลแรก ฟาน บาสเท่น ก็มีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า แต่มันคือครั้งแรกที่เขาเจ็บจนรู้สึกว่าทนเล่นต่อไปไม่ไหวจนต้องพักยาวเกือบทั้งฤดูกาล




ฤดูกาล 1988-89 กับการสลัดอาการบาดเจ็บได้สนิท ถือเป็นช่วงที่เขาฟอร์มร้อนแรงมาก เพราะนอกจากจะพาทีมฮอลแลนด์ คว้าแชมป์ ยูโร 1988 พร้อมกับการแจ้งเกิดคว้าดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นต์มาครองได้แล้ว ความยอดเยี่ยมในการซัดประตูของเขายังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง มาคว้ารางวัลดาวซัลโวฟุตบอลกัลโช่เซเรียอา พร้อมกับพาทีม เอซี มิลาน ครองแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพได้อีก ทำให้ที่สุดแล้ว รางวัลบัลลงดอร์ ก็ตกเป็นของเขาจนได้

ส่วนผลงานในระดับชาติ ฟาน บาสเท่น ในปี 1988 รายการ ยูโร 1988 ที่ประเทศ เยอรมัน เป็นเจ้าภาพ ซึ่งในรายการนี้ ฟาน บาสเท่น เป็นตัวสำรองให้กับทีมเท่านั้นในนัดประเดิมสนาม ต่อมาในเกมที่สอง เขาได้รับโอกาสเป็นตัวจริงบ้าง และยิงไปได้ถึง 5 ประตูให้กับทีม พร้อมเขี่ยเจ้าภาพตกรอบสำเร็จด้วยน้ำมือของเขาอีกด้วย จนพาทีมคว้าแชมป์ยูโร 88′ ได้อย่างชื่นมื่น

ในส่วนบอลอาชีพ น่าเสียดาย ที่การเล่นฟุตบอลของมาร์โก ฟาน บาสเท่น จะต้องสั้นเป็นพิเศษ เพราะหลังจากที่เล่นให้ทีมปีศาจแดง-ดำ ผ่านไป 6 ปี เขายังทำหน้าที่ศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อาการบาดเจ็บที่รบกวน มาทำลายเส้นทางฟุตบอลของเขาลงอย่างราบคาบ ซึ่งเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ข้อเท้าถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะไม่ฝืนสังขาร ทำให้ต้องเลิกเล่นฟุตบอลไปในที่สุด ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 30 ปีเลยด้วยซ้ำ






ด้วยความสูงถึง 188 เซ็นติเมตร แถมยังมีความเร็วและการจบสกอร์ที่แม่นยำ จึงไม่แปลกที่แข้งรายนี้จะเป็นกองหน้าที่หาตัวจับยาก ทำให้สถิติการพังประตูตลอดชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขา ฝากเอาไว้ที่การลงเล่น 373 นัด ยิงประตูไปแล้ว 277 ประตู นี่คือตัวเลขระดับสโมสร ส่วนในระดับทีมชาติ ลงเล่นไป 58 นัด ยิงได้ 24 ประตู ซึ่งมองจากสถิติแล้ว นี่คือดาวยิงระดับชั้นนำของโลกอย่างแท้จริง

เมื่อแขวนสตั๊ดแล้ว ต่อมา ฟาน บาสเท่น ได้ไปเป็นโค้ชให้ทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และเคยมาเตะกับทีมชาติไทยที่สนามรัชมังคลาฯ แวน บาสเท่น ประสบความสำเร็จจากการเป็นโค้ชพาสโมสรชนะ และต่อมาได้เป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของฟีฟ่า

เกียรติประวัติ
อาแจ็กซ์
-อีเรดิวิซี: 1981–82, 1982–83, 1984–85
-เคเอ็นวีบี คัพ: 1982–83, 1985–86, 1986–87
-ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ: 1986–87
เอซี มิลาน
-เซเรีย อา: 1987–88, 1991–92, 1992–93
-ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา: 1988, 1992
-ยูโรเปียนคัพ: 1988–89, 1989–90, 1993–94
-ยูโรเปียน ซูเปอร์คัพ: 1989
-อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ: 1989, 1990
ทีมชาติ ฮอลแลนด์
-ยูฟ่า ยูโร : 1988
ส่วนตัว
-บัลลงดอร์: 1988, 1989, 1992
-หอเกียรติยศ เอซี มิลาน

images credit : https://www.guerinsportivo.it/

images credit : https://www.transfermarkt.com/

images credit : https://fifpro.org/es/apoyar-a-los-jugadores/salud-y-rendimiento/salud-mental/secret-balance-of-champions-van-basten-launches-book/

images credit : https://futbolretro.es/el-milan-de-arrigo-sacchi/?lang=en

images credit : http://chinese.fansshare.com/