อีกหนึ่งตำนานนักเตะ ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของเยอรมนี ในยุค90′

มิชชาเอล บัลลัค เกิด 26 กันยายน 1976, เมือง เกอร์ลิทซ์, เยอรมนีตะวันออก เป็นกองกลางฟุตบอลอาชีพชาวเยอรมัน ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนักฟุตบอลเยอรมันแห่งปีสามครั้ง (2002, 2003, 2005)

บัลลัคเติบโตขึ้นมาใน เคมนิทซ์ ในเยอรมนีตะวันออกในช่วงยุคที่เยอรมนีถูกแบ่งแยก ที่นั่นเขาเล่นฟุตบอลเยาวชนกับ สโมสรฟุตบอลเชมนิตเซอร์ ในปี 1990 และให้สัญญาอาชีพฉบับแรกแก่เขาในปี 1995

และในปี 1997 เขาย้ายไปที่ ไกเซอร์สเลาเทิร์น เป็นสโมสรอีกระดับหนึ่งของเยอรมัน ซึ่งเพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปในบุนเดสลีกา เขาก้าวผ่านระดับฝีเท้าขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จากการควบคุมบอล ความแม่นยำ และแรนเจอร์ระยะไกลทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นและมีประสิทธิภาพในตำแหน่งกองกลางหายใครเทียบยากในสมัยนั้น

จนสามารถพาทีม ไกเซอร์สเลาเทิร์น คว้าแชมป์ บุนเดสลีกามาครองสำเร็จ
พ่อของ บัลลัค ก็เป็นนักฟุตบอลที่เล่นฟุตบอลในดิวิชั่น 2 มาก่อน บัลลัค จึงซึมซับกีฬาฟุตบอลจากพ่องเขาได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

เขาลงเล่น 15 นัดในฤดูกาลแรกและยิงได้ 10 ประตู ผลงานทำให้เขาได้รับการกล่าวขานเป็นอย่างมาก ทำให้แมวมองหลายๆทีมต่างเฝ้าจับตาดูฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เขาพัฒนาฝีเท้ากับ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ได้ 2 ปี บัลลัค ก็ย้ายซบ เลเวอร์คูเซ่น ในเดือนมีนาคม ปี 1999

บัลลัค ลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมนีเมื่อวันที่ 28 เมษายน ปี 1999 เมื่อเขาถูกส่งลงไปเปลี่ยนตัวกับ ดีทมาร์ ฮามันน์ ที่เยอรมนี แพ้ 0-1 นั่นคือเวทีทีมชาติครั้งแรกของเขา จากนั้นเขาก็เป็นตัวจริงของเยอรมนีที่ยูฟ่ายูโรในปี 2000 เรื่อยมา สองปีต่อมาในรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลโลก 2002 บัลลัค ทำประตูให้ เยอรมนี เอาชนะสหรัฐอเมริกาไป 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ

บัลลัค ยกระดับตัวเองขึ้นสู่นักเตะชั้นแนวหน้าของเยอรมันกลายเป็นคนสำคัญของทีมโดยลงเล่นในลีก 27 นัดซัดไป 7 ประตู และอีก 1 ประตูจาก 5 เกมแชมเปี้ยนลีก กลายเป็นผู้เล่นที่ถูกจับตามองว่าจะกลายเป็นนักเตะชั้นนำของโลกได้ในไม่ช้า ในนามทีมชาติเขาก็เป็นตัวหลักของทีมชาติเยอรมัน ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกอย่างสม่ำเสมอ และทำประตูได้นัดแรกในวันที่ 28 มีนาคม 2001ในเกมกับกรีซ ด้วยลูกจุดโทษในนาทีที่ 25 เอาชนะไป 2-1


กลับมากันต่อที่สโมสร บัลลัค ย้ายไปไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ปี 1999 เขามีสามปีที่น่าอัศจรรย์กับที่แห่งนี้ ซึ่งเขาได้รับบทบาทโจมตีในตำแหน่งกองกลางและทำประตูได้ทั้งหมด 27 ประตูในสามฤดูกาลของเขากับเลเวอร์คูเซ่น แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถพา ห้างยา ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ ส่งผลให้ บัลลัค ย้ายไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ทีมชั้นนำของบุนเดสลีกา ด้วยค่าตัว 6 ล้านยูโร

ปี 2003-2004 ในฤดูกาลนี้ มิชชาเอล บัลลัค กับทีม มิวนิค โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก ทำได้เพียงแค่รองแชมป์บุนเดิสลีกา และไม่มีถ้วยใด ๆ ติดมือเลย โดยเขายิงได้ 7 ประตูจาก 28 นัดในลีก และลงเล่น 8 นัดในแชมเปี้ยนลีกแต่ยิงประตูไม่ได้เลย

เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติเยอรมันเพื่อลุยยูโร 2004 ที่โปรตุเกส แต่ก็ต้องมาอยู่ร่วมสายกับ สาธารณรัฐเช็ก ฮอลแลนด์ และลัตเวีย ซึ่งเขาและทีมต้องกระเด็นตกรอบแรกหลังจากเสมอฮอลแลนด์ และลัตเวีย ตามด้วยแพ้สาธารณรัฐเช็ก สร้างความช้ำใจให้กับตัวเขาและทีมชาติเป็นอย่างมาก และหวังจะแก้ตัวให้สำเร็จในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน

เขาอยู่กับ มิวนิค เป็นเวลาสี่ปี และประสบความสำเร็จกับ บาเยิร์น มิวนิค ได้พอสมควรที่นี่ คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา 3 สมัยและเดเอฟเบ-โพคาลอีก 2 สมัย เขายิงไป 44 ประตูจากการลงเล่น 107 นัด และอีก 29 แอสซิสต์ในบุนเดสลีกากับบาเยิร์น มิวนิค

จากนั้นบัลลัคก็ย้ายไปเชลซีแบบไร้ค่าตัวในเดือนพฤษภาคม 2006 โดย 2006-2007 เป็นฤดูกาลแรกที่เขาได้ย้ายมาสู่สโมสร เชลซี หลังจากหมดสัญญากับทีมบาเยิร์น มิวนิค โดยย้ายตัวมาแบบฟรีๆ ซึ่งเขาลงเล่นพรีเมียร์ลีกไปทั้งหมด 26 นัด ทำได้ 5 ประตู เอฟเอคัพ 9 นัด ทำได้ 1 ประตู และแชมเปี้ยนลีก 10 นัด ทำได้ 2 ประตู

แม้จะโชว์ฟอร์มตกลงจากเดิม แต่ก็เนื่องมาจากการที่เขาต้องใช้เวลาปรับตัวกับรูปแบบเกมฟุตบอลในอังกฤษ ที่เร็วและหนักหน่วงมากขึ้น แต่ทั้งนี้เขาก็คว้าแชมป์ได้กับ เชลซี ถึงสองรายการคือ เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพในฤดูกาลแรกของเขากับสโมสรใหม่


ในเดือนตุลาคม 2012 บัลลัค ประกาศลาออกจากวงการฟุตบอล เขาเล่นนัดอำลาในเดือน มิถุนายน 2013 ที่ สนาม ไลป์ซิก อารีน่า ซึ่งเป็นการรวมดาราเหล่านักเตะที่ได้รับเชิญมาเล่นเป็นเกียรติส่งท้ายให้ มิชชาเอล บัลลัค ในการแขวนสตั๊ด
เกียรติยศของกองกลางรายนี้
ไกเซอร์สเลาเทิร์น
แชมป์บุนเดิสลีกา เยอรมัน ปี 1998
บาเยิร์น มิวนิค
แชมป์บุนเดิสลีกา เยอรมัน ปี 2003, 2005, 2006
แชมป์เดเอ็ฟเบโพคาล ปี 2003, 2005, 2006
ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีขออง ซอกเกอร์ ไดเจสต์ ปี 2003
กองกลางยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า ปี 2003
ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน ปี 2002, 2003, 2005
เชลซี
แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ปี 2009
รองแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ปี 2007
แชมป์ลีกคัพ ปี 2007
แชมป์เอฟเอ คัพ ปี 2007, 2009, 2010
แชมป์เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2009

credit : https://www.sportskeeda.com/player/michael-ballack

images credit : https://footballlegend78.blogspot.com/

images credit : https://bundesligaclassic.tumblr.com/page/71

images credit : https://twitter.com/chegiaevara/status/1206546546134781955?lang=fa