อีกไม่กี่อึดใจ สาลิกาดง จะกลายเป็นมหาอำนาจลูกหนังแล้ว เพราะเจ้าของคนใหม่รวยระดับโลก

มีรายงานว่า สโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เตรียมแถลงข่าวการขายกิจการให้กลุ่มทุนที่มี โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่ง ซาอุดีอาระเบีย ที่จะเป็นหุ้นส่วนใหญ่ภายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้

โดยรายงานจาก “สกาย สปอร์ตส์”และสื่อหลายแขนงให้ข่าวตรงกันว่า มกุฎราชกุมารแห่ง ซาอุดีอาระเบีย มีความพยายามเข้าซื้อกิจการ “สาลิกาดง” โดยในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของ กองทุนการลงทุนภาครัฐซาอุดีอาระเบีย (พีไอเอฟ), มาดาม อะแมนด้า สเตฟลี่ย์ และพี่น้อง รูเบน ด้วยมูลค่าราว 300 ล้านปอนด์ (ราว 13,500 ล้านบาท)

ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาเคยติดต่อซื้อกิจการมาแล้วครั้งหนึ่งจนเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อปีที่แล้ว แต่ทว่าต้องถูกระงับไปเพราะ ขณะนั้น “พีไอเอฟ” ถูก บี-อิน สปอร์ตส์ เครือข่ายถ่ายทอดสดสัญชาติ กาตาร์ ที่เป็นพันธมิตรของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เข้ามาขัดขวางด้วยกรณีละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศซาอุฯ

กระทั่งล่าสุดมีการแก้ปัญหาสตรีมมิ่งแบบผิดกฎหมายจนเป็นที่น่าพอใจ ทำให้กระบวนการเดินหน้าอีกครั้ง ซึ่ง มิสเตอร์ แอชลี่ย์ เจ้าของคนปัจจุบันง่วนกับการพิจารณารายละเอียดขั้นท้ายๆกับเอกสารต่างๆแล้ว

ล่าสุดสื่อดังของอังกฤษเปิดเผยว่า กลุ่มทุน พีไอเอฟ ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูงถึง 320,000 ล้านปอนด์ (ราว 14,720,000 ล้านบาท) มากกว่ามูลค่าทรัพย์สินของ ชีคห์ มานซูร์ เจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมกันกับ นาสเซอร์ อัล เคไลฟี เจ้าของทีมปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง เสียอีก

ถ้าหากว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีแล้วหล่ะก็ ไม่อยากจะคิดเลยว่าทีม สาลิกาดง จะก้าวข้ามขีดจำกัดจนขึ้นมาเป็นทีมระดับแถวหน้าได้อย่างแน่นอน เพราะจะมีงบประมาณในการลงทุนเสริมทัพอย่างเหลือเฟือในมกราคมนี้และซัมเมอร์ต่อๆไป

credit : http://insidefutbol.com

images credit : http://insidefutbol.com/