ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ยอดกองหลัง แข้งคู่บารมีของ โจเซ มูรินโญ่ เหนียวหนึบจนกูรูยกนิ้ว

ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ยอดตำนานกองหลังของ เชลซี ในยุครุ่งเรื่อง ที่เป็นส่วนหนึ่งพาทีมคว้าแชมป์สิงห์บลูมาอย่างมากมาย คาร์วัลโญ่ เริ่มต้นการค้าแข้งกับทีมสโมสร แลซา ก่อนจะไปเข้าตา กุนซือของ ปอร์โต้ และดึงตัวมาร่วมทีม แต่ก็ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้เพราะประสบการณ์ยังน้อย จึงถูกย้ายไปสะสมประสบการณ์กับทีม วีตอเรีย ดีซีตูบัล และ อัลแวร์กา ในแบบยืมตัว

หลังจากนั้นได้ไม่นาน คาร์วัลโญ่ ที่สั่งสมประสบการณ์มากขึ้นจน ถูกเรียกกลับมาช่วยงานอีกครั้ง และเขาก็ไม่ทำให้กุนซือทีมดังผิดหวัง สามารถพา ปอร์โต้ เข้ารอบลึกในแชมเปี้ยนลีกได้ จนในปี 2002 ด้วยการเข้ามาคุมทีมของ โจเซ มูรินโญ่ และประสบการณ์ที่มากขึ้น คาร์วัลโญ่ มีโอกาสได้ลงเล่นในเกมลีกมากขึ้น และลงสนามในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกถึง 5 นัด กับตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 24 ปี

หลังจากพาทีม ปอร์โต้ ประสบความสำเร็จของ มูรินโญ่ พาทีม ปอร์โต้คว้าแชมป์ยูซีแอลได้อย่างยิ่งใหญ่ เขาจึงถูก เชลซี ดึงตัวเข้ามาคุมทีม และเขาไม่ลืมที่จะต้องเหน็บ กองหลังลูกรักอย่าง คาร์วัลโญ่ ติดมาอยู่ที่เชลซีด้วย กับการจ่ายค่าตัวให้ต้นสังกัดเก่าไปมากถึง 20 ล้านปอนด์เลยทีเดียว




คาร์วัลโญ่ เริ่มเป็นที่รักของแฟนบอล เชลซี มากขึ้นเรื่อยๆหลังปรับตัวได้ไม่นานเขาก็ยึดตำแหน่งตัวจริงของ สิงห์บลู คู่กับ จอห์น เทอร์รี่ จนได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่าเป็นแนวรับที่เหนียวแน่นที่สุดของพรีเมียร์ลีกในยุคนั้นเลยทีเดียว

แม้ว่า คาร์วัลโญ่ จะไม่ใช่กองหลังตามแบบฉบับที่หลายคนมอง เป็นเพราะมีความสูงแค่ 181 อีกทั้งร่างกายก็ยังผอมบาง แต่ทว่ามันแลกมาด้วยความฉลาดในการเข้าบอลและอ่านเกมได้ขาดทุกครั้งที่กองหน้าคู่แข่งบี้เข้ามาในเขตโทษ

ยิ่งเล่นยิ่งดัง หลายคำชมจากกูรูพลั่งพลูไปหาตัวเขาอย่างมาก แต่ คาร์วัลโญ่ ไม่เคยที่จะยกความดีความชอบไปให้กับ กุนซือ มูรินโญ่ ด้วยการบอกว่า “หากไม่ได้โค้ชคนนี้สั่งสอน ผมก็ไม่สามารถมาถึงจุดๆนี้ได้หรอก”

การที่เขาเล่นกับ จอห์น เทอร์รี่ ทำให้เขาปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้อย่างลงตัวมากๆ จนสามารถคว้ารางวัลนักเตะกองหลังยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ในปี 2003-04

หลังจาก คาร์วัลโญ่ ยิ่งมีประสบการณ์มากขึ้น จำนวนการเสียประตูของ เชลซี ก็น้อยลงเรื่อยๆ จนเป็นที่ขยาดของกองหน้าคู่แข่งเมื่อต้องได้มาประทะกันเสมอ และพาเชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ติดต่อกันสองสมัย 2004-05, 2005-06 ไปได้อย่างสุดยอด






หลังจากนั้นช่วงปลายอาชีพกับ เชลซี คาร์วัลโญ่ เกิดการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง แต่ด้วยชื่อเสียงที่สร้างมาเขาจึงยังถูก เรอัล มาดริด ดึงตัวไปร่วมทีม ที่สำคัญคือ มูรินโญ่ ได้รับงานต่อที่ราชันย์เช่นกัน ทำให้ไม่พลาดที่จะดึงไปร่วมงานด้วยเหมือนเดิม บ่งบอกว่าเป็นลูกรักจริงๆ แต่ด้วยที่อายุอานามปาเข้า 32 ปีแล้ว ผลงานของ คาร์วัลโญ่ ไม่เหนียวหนึบเหมือนเดิม อีกทั้งสร้างลูกตุกติกจนแฟนบอลเริ่มหน่าย

คาร์วัลโญ่ อยู่ เรอัล มาดริด 3 ฤดูกาล พาทีมคว้าแชมป์ลีก ลาลีกา 1 สมัย และ โคปา เดย์ เรย์ 1 สมัย ต่อจากนั้นย้ายไปค้าแข้งแดนน้ำหอม ลีก เอิง กับ โมนาโก อีก 3 ฤดูกาล หลังจากนั้นไปขุดทองที่เมืองจีนในระยะสั้นๆก่อนจะแขวนสตั๊ดไป

เกียรติประวัติ
ปอร์โต้
พรีเมียรา ดิวิชั่นลีกา: 1998–99, 2002–03, 2003–04
ทาซา เด โปรตุเกส: 2002–03
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2003–04
ยูฟ่าคัพ: 2002–03
เชลซี
พรีเมียร์ลีก: 2004–05, 2005–06, 2009–10
ฟุตบอลลีกคัพ: 2004–05, 2006–07
เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์: 2005, 2009
เรอัล มาดริด
ลาลีกา: 2011–12
โคปา เดล เรย์: 2010–11
ทีมชาติ โปรตุเกส
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: 2016

images credit : https://wikiodin.com/

images credit : https://www.thesun.co.uk/

images credit : https://www.dailymail.co.uk/

images credit : https://www.ricardocarvalhofan.net/

images credit : https://www.thestatesman.com/

images credit : https://www.eurosport.com/