ตำนานกองหน้า ฉายา “พระเจ้าของเดอะค็อป” นั่นไม่ใช่ใครที่ไหน ชายที่ชื่อ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

มาถึงตำนานนักเตะของ ลิเวอร์พูล กันบ้าง เขาผู้นั้นคือ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ศูนย์หน้าดาวยิงของทีม ที่แฟนๆเดอะค็อปยกให้คือหนึ่งใน 10 แข้งพรสวรรค์ตลอดกาล และได้รับฉายาว่า “พระเจ้าของเดอะค็อป” ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ มีชื่อเต็มว่า โรเบิร์ต เบอร์นาร์ด ฟาวเลอร์ เกิดเมื่อวันที่ 09 เมษายน 1975 ส่วนสูง 175 เซ็นติเมตร ตำแหน่งกองหน้า ฟาวเลอร์ เติบโตขึ้นมาในพื้นที่เมืองชั้นในของ ลิเวอร์พูล (เมือง ท็อธเทจ) ถือเป็นเมืองในย่านคนจนของลิเวอร์พูล

ฟาวเลอร์ เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลในวัย 14 ปีกับทางโรงเรียน จนฝีเท้าของเขาไปเตะตาแมวมองของ ลิเวอร์พูล อย่างจัง จนสุดท้ายเขาได้เข้าร่วมกับสโมสร ลิเวอร์พูลกับอะคาเดมี่ ซึ่งจริงๆแล้วก่อนหน้านั้น แมวมองของเอฟเวอร์ตัน ก็สนใจในฝีเท้าของเจ้าหนู ฟาวเลอร์ อยู่เหมือนกัน แต่ช้าไป ฟาวเลอร์ ตบปากรับคำกับลิเวอร์พูลเสียก่อน เพราะเขาใฝ่ฝันอยากเป็นนักเตะอาชีพอยู่แล้วเพื่อหวังช่วยพยุงครอบครัวของเขาขึ้นมาจากความจนให้ได้ จึงไม่แคร์ว่าจะได้เล่นกับทีมใดในอาชีพฟุตบอล ขอเพียงได้เงินเท่านั้นเป็นพอ

ในปี 1992 ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ เซ็นสัญญากับลิเวอร์พูล เป็นนักเตะอาชีพอย่างเต็มตัว นัดแรกที่เขาได้ลงสนามกับลิเวอร์พูล คือนัดที่พบกับทีมฟูแล่ม ของฤดูกาล1993-94 และเขาก็ทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อให้กับลิเวอร์พูลทันที โดยยิงลูกปิดท้ายที่เอาชนะเจ้าสัวได้ไปในสกอร์ 3-0 และในฤดูกาลนั้น เขาได้รับโอกาสลงสนามมากถึง 34 นัดเลยที่เดียว และยิงไปได้ถึง 18 ประตูเลยทีเดียว ทำให้แฟนๆเดอะค็อปรักเขามากขึ้นไปอีก หลังจากนั้นฤดูกาลถัดมา ฟาวเลอร์ ได้ลงสนามมากขึ้นไปอีกจากความไว้วางใจของกุนซือ ในฤดูกาล 1994-95

เขายิงประตูให้ลิเวอร์พูลไปอย่างถล่มทลายถึง 31 ประตูรวมทุกรายการแข่งขัน 57 เกม แถมที่ยิงในฤดูกาลนี้ยังสามารถสร้างสถิติให้กับตัวเองอีกด้วย ในเกมที่ปะทะกับอาร์เซน่อลโดยใช้เวลาเพียง 4 นาที 33 วินาที ยิงประตูใส่อาร์เซน่อล กลายเป็นสถิติที่ยิงเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกครั้งนั้น และในปีนั้นฟาวเลอร์ก็ได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ไปโดยทันที

ในทุกๆปีที่อยู่กับ ลิเวอร์พูล เขาไม่ทำให้แฟนบอลเดอะค็อปผิดหวังเลย คอยยิงประตูใส่คู่แข่งอย่างต่อเนื่อง หลังจากสร้างชื่อเสียงให้ตนเองจนดังระเบิดระเบ้อ เขาก็เริ่มมีความมั่นใจตัวเองมากจนเกินเหตุ แสดงท่าทางหลังการยิงประตูที่ไม่น่าส่งเสริมออกมาจนถูกวิภาควิจารณ์อย่างหนัก (ท่าคล้ายคนสูดเฮโรอีน) จนมีกูรูหลายคนออกมาตำหนิติเตียนด้วยความไม่เหมาะสม

จนในปี 1998 สโมสรมีการเปลี่ยนถ่ายผู้จัดการทีม โดยเอา เฌราร์ อูลีเย่ เข้ามาทำทีม และกลายเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งระหว่างกุนซือและตัวเขา โดย เฌราร์ อูลีเย่ มองว่า ฟาวเลอร์ เป็นนักเตะที่ไม่แข็งแกร่ง อ่อนแอและเจ็บบ่อยเกินไป จนสุดท้ายกุนซือรายนี้ ดัน ไมเคิ่ล โอเว่น ขึ้นมาจากชุดเยาวชน เพื่อที่จะมายืนเป็นตัวจริงแทน ฟาวเลอร์ นั่นเป็นสาเหตุที่ ฟาวเลอร์ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ได้แต่เก็บไว้ในใจเพราะยังรักสโมสรนี้อยู่ สุดท้ายเมื่อ ฟาวเลอร์ มีบทบาทน้อยลงไปทุกทีๆ เพราะ อูลีเย่ เลือกที่จะใช้ โอเว่น คู่กับ สแตน คอลลีมอร์ มากกว่า จนสุดท้ายทาง ลิเวอร์พูล ก็ไม่ต่อสัญญากับ ฟาวเลอร์ ออกไป

ในปี 2001 ฟาวเลอร์ ถูกขายไปให้ ทีมลีดส์ ยูไนเต็ด กับค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ที่ถือว่ามากมายก่ายกองในยุคนั้น แต่เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่เปราะบางอยู่แล้วจึงทำให้ ฟาวเลอร์ ลงสนามไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยกับทาง ยูงทอง สักเท่าไหร่ ใน 3 ฤดูกาลกับ ลีดส์ ลงเล่นไปแค่ 30 เกมเท่านั้น และยิงไป 14 ประตู จะสุดท้ายทางลีดส์สุดจะทนกับอาการบาดเจ็บเรื้อรังจนฟอร์มตก เดินทางมาอยู่กับ แมนฯซิตี้อีก 4 ปี โดยลงให้กับเรือใบไป 80 นัด ยิงไป 21 ประตูเท่านั้น เฉลี่ยแล้วแต่ละฤดูกาลไม่ถึง10 ลูกด้วยซ้ำไป แต่การเดินทางของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ยังไม่สิ้นสุด แม้มีอาการบาดเจ็บติดตัวออดๆแอดๆ เข้าก็ยังได้เข้าร่วมกับอีกหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล(คำรบสอง), คาร์ดิฟฟ์, แบล็กเบิร์น, นอร์ทควีนส์แลนด์ฟิวรี, เพิร์ธ กลอรี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด(ไทยแลนด์ ลีก)
เกียรติประวัติของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กับ ลิเวอร์พูล

-ลีกคัพ 2 สมัย 1995, 2001
-เอฟเอคัพ 1 สมัย 2001
-ยูฟ่าคัพ 1 สมัย 2001
-ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย 2001

-ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปี 2 สมัย 1995 และ 1996
-นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน พรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง

ปัจจุบัน ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ทำหน้าที่เป็นกุนซือของทีม อิสต์เบงกอล  ในประเทศอินเดีย

images credit : https://www.sportsmole.co.uk/

images credit : https://www.thisisanfield.com/

images credit : https://voi.id/en/memori/4399/celebrating-fowlers-heartache-with-cocaine