ตำนาน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของแข้งที่ชื่อ โรแบร์โต้ บาจโจ้

โรแบร์โต้ บาจโจ้ แข้งดังของ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ลูกหนังกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ซึ่งครั้งหนึ่งแข้งรายนี้เคยจุดฉนวนเหตุการวุ่นวายตามท้องถนนมาแล้ว สาเหตุอันเนื่องมาจาก บาจโจ้ ย้ายจาก ฟิออเรนติน่า มาซบทีมดังอย่าง ยูเวนตุสคู่กัดในตอนนั้น จนทำให้แฟนบอลม่วงมหากาฬเกิดความไม่พอใจอย่างมาก จนเกิดความโกลาหลขึ้นจนเป็นข่าวหน้าหนึ่งในวงการฟุตบอลช่วงนั้นเลยทีเดียว นับถอยหลังไปก่อนหน้านั้น บาจโจ้เป็นเป็นฮีโร่ที่ฟิออเรนติน่าหลังจากห้าฤดูกาลของเขากับความฉลาดในเกมลูกหนังที่แสดงเอาไว้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในพรสวรรค์ที่เฉียบแหลมที่สุดของวงการฟุตบอลอิตาลี ก่อนที่จะดึงดูดความสนใจจากยักษ์ใหญ่แห่งตูริน นั่นเป็นที่มาของความโด่งดังในอาชีพฟุตบอล โรแบร์โต้ บาจโจ้ ที่ยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จักตำนานคนนี้

บาจโจ้ มีชื่อเล่นว่า Il Divino Codino หรือ The Divine Ponytail ซึ่งความหมายคือการผูกผมเป็นหางม้าเพราะผมหางม้าที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขาและเขาหันมานับถือศาสนาพุทธ บาจโจ้ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 ที่เมืองคัลดอกโน รัฐเวเนโต บาจโจ้ สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกกับการเล่นให้กับทีมท้องถิ่นของเขาในคัลดอกโน ก่อนที่จะถูกวิเซนซาเห็นแววและดึงเขาไปร่วมงานเป็นนักเตะอย่างเต็มตัว ก่อนประเดิมสนามกัลโช่ เซเรีย ซี เมื่ออายุ 15 ปีเท่านั้น โดยบาจโจ้ ทำไป 13 ประตูจาก 36 นัดที่ลงเล่นให้กับ วิเซนซ่า ก่อนที่สโมสรในเซเรีย อา อย่างฟิออเรนติน่าพร้อมที่จะสนับสนุนดาวรุ่งรายนี้ที่โชว์ฟอร์มเก่งในอายุเพียง 15 ปี จนสื่อหลายแขนงในยุคนั้นยกให้เป็นแข้งพรสวรรค์ของวงการฟุตบอลอิตาลีเลยทีเดียว โดย ฟิออเรนติน่าซื้อตัว บาจโจ้ มาร่วมทีมในวัย 18 ปีหลังเล่นให้กับ วิเซนซ่า ไปเพียง3ฤดูกาลเท่านั้น ด้วยสัญญามูลค่ากว่าล้านปอนด์เล็กน้อย

โรแบร์โต้ บาจโจ้ ย้ายมาใช้ชีวิตค้าแข้งในถิ่นวิโอล่าในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 และเกมแรกที่เขาลงช่วยทีม เป็นการที่ต้นสังกัดพบกับทีมอย่าง นาโปลีในวันที่นาโปลีได้สคูเด็ตโตเป็นครั้งแรก แต่ครั้งนั้น บาจโจ้ ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันให้กับทีมเท่าไหร่ แต่ไม่นานนัก เขาใช้เวลาในการปรับตัวซักพักในทีมจนกลายเป็นขวัญใจแฟนๆ ของฟิออเรนติน่า ช่วงที่เขาอยู่กับสโมสรม่วงมหากาฬ 5ปี เขาสามารถสร้างพื้นฐานและยกระดับของตนเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม การวิ่งหาตำแหน่งในการทำประตู และการยิงประตูที่เฉียบขาด

แต่ในช่วงที่เขาอยู่เขาก็พยายามสร้างผลงานต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่เคยพาต้นสังกัด ฟิออเรนติน่าไปถึงแชมป์ลีกได้สักครั้ง ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ วิโอล่า เขายิงได้ 17 ประตูจาก 32 เกมลีกในทีมที่จบจากการตกชั้นหนึ่งแต้ม หลังจากนั้นที่ ยูเวนตุส ได้ลงทุนจ่ายค่าธรรมเนียมสถิติโลกราวๆ 13 ล้านปอนด์สำหรับ บาจโจ้ ทำให้เกิดการจลาจลและโวยวายในหมู่แฟนวิโอลาอย่างหนัก แฟนบอลบางคนเรียกเขาว่ายูดาส ลูกชายสุดที่รักของพวกเขา หลังที่ทีมทิ้งไปให้ยูเวนตุส คู่แข่งสำคัญของพวกเขาดูแลแข้งรายนี้แทน

ข้อตกลงทั้งหมดนี้เป็นเพราะผู้จัดการส่วนตัวของบาจโจ้นั่นเองที่ทำการแอบเจรจาย้ายให้กับแข้งรายนี้ ทั้งๆที่ บาจโจ้ ยังอยากที่จะอยู่กับวิโอล่าต่อไปแต่เขาก็ต้องยอมรับความจริงที่กำลังเกิดขึ้น ที่ยูเวนตุส บักโจ้ใช้เวลาปรับตัวกับการทำผลงานได้ 27 ประตูในการร่วมทีมในฤดูกาลแรกครั้งแรกของเขา เขาอดทนกับอารมณ์ที่อยากกลับกลับคืนสู่ฟิออเรนติน่าในปีนั้น เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรป U23แห่งปีจากความพยายามของเขา เรื่อยมาจนถึงในฤดูกาล 1992-93 บาจโจ้ตอนนี้เป็นกัปตัน นำยูเวนตุสไปสู่ความรุ่งโรจน์ในยูฟ่า คัพ ในรอบรองชนะเลิศ บักโจ้ ยิงประตูให้ยูเวนตุสทั้งสามประตูในชัยชนะรวม 3-1 ของพวกเขาเหนือ เปแอสเช เขาทำประตูได้สองประตูในรอบชิงชนะเลิศกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ยูเวนตุสทำสกอร์รวม 6-1 จนเขาโด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่นั้นมา

อีกทั้งในปีเดียวกัน เขายังถูกรับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ อันโด่งดัง ในฟุตบอลโลกปี 1994 จุดแข็งหลักของอิตาลีคือแนวรับของมิลานและ บาจโจ้นั่นเอง ซึ่งหนึ่งในฝันร้ายของ บาจโจ้ เห็นว่าลูกยิงของเขาม้วนตัวข้ามบาร์และส่งให้บราซิลได้แชมป์ฟุตบอลโลกไปครองในครั้งนั้น บาจโจ้ถูกตำหนิอย่างไม่ยุติธรรมเป็นส่วนใหญ่ว่าอิตาลีแพ้การแข่งขัน เป็นการดูถูกความเจ็บปวดที่ได้เห็นความฝันของเขาที่จะชูถ้วยบอลโลกหลุดมือไป หลังจากที่เขาทำลาดในเกมฟุตบอลโลก เขากลับมาด้วยความช้ำใจไม่น้อยที่เหมือนทำให้ทุกคนพลาดหวังในตัวเขา เขากลับมาเล่นบอลอย่างฮึกเหิมจนพายูเวนตุส คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ เขาเล่นเป็นตัวสำรองจากอาการบาดเจ็บ โดยลงเล่น 17 นัดในลีก ทำได้ 8 ประตู เดล ปิเอโร่ได้พิสูจน์แล้วว่าเข้ามาแทนที่คู่ควร

และลิปปีก็เลือกที่จะขายบาจโจ้ให้กับเอซี มิลาน หลังจากนั้น แม้เจ้าตัวจะโด่งดังแค่ไหนก็ตามแต่อาการบาดเจ็บรบกวนมาโดยตลอดทำให้เขาจึงถูกขายทอดตลาดไปในครั้งนั้นเมื่อปี 1995 สู่ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน หลังจากย้ายมาอยู่กับ เอซี มิลาน เป็นเหมือนช่วงขาลงของแข้งดังรายนี้ ที่ส่วนใหญ่ บาจโจ้ จะโดนจับนั่งเป็นสำรองซะส่วนใหญ่ แม้เข้ามาฤดูกาลแรกก็ตาม เอซี มิลานยังคว้าแชมป์ได้ในปีที่ย้ายเข้ามาอีกด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นานชื่อเสียงของ บาจโจ้ ก็ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ในสีเสื้อทีมชาติอิตาลีก็ยังเป็นสำรองของ เดล ปิเอโร่ ดาวรุ่งดวงใหม่ในตอนนั้นอีกด้วย หลังจากขาลง บาจโจ้ เริ่มไม่เป็นที่สนใจทั้งทีมใหญ่ และ ทีมชาติ จะต้องย้ายทีมกันเป็นว่าเล่นในช่วงปลายอาชีพ หลังออกจาก เอซี มิลาน ย้ายซบ โบโลญญ่า, อินเตอร์ มิลาน และ เบรชชา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จนสุดท้ายเจ้าตัวจึงตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2004 ที่อายุตอนนั้น 37 ปี

credit : https://forzaitalianfootball.com/

images credit : https://www.juvefc.com/