ตำนานกองหน้าอีกหนึ่งคน ที่พาแมนฯยูไนเต็ดคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 1998-99

เท็ดดี้ เชอริงแฮม วันเกิด 2 เมษายน 1966 เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ มิลล์วอลล์ ในปี 1982 ด้วยอายุเพียงแค่ 16 ปี เขาโชว์ฟอร์มเข้าตาแมวมองจากการเล่นให้กับทีมนอกลีกอย่างเลน์ตันสโตน แอนด์ อิลฟอร์ด จากนั้นเมื่อเขาเซ็นสัญญาเขาก็ใช้เวลาเพียงแค่เกมที่ 2 เท่านั้นในการยิงประตูแรกให้กับสโมสร โดยเป็นแมตช์ที่บุกไปเยือน บอร์นมัธ เมื่อเดือนมกราคม 1984

เขาได้มีโอกาสย้ายทีมไปเล่นแบบยืมตัวอยู่ 2 ครั้งในปี 1985 กับ อัลเดอร์ช็อต และ เยอร์การ์เด้น ของสวีเดน จากนั้นในช่วงปลายยุค 1980 เขาก็กลับมาเป็นกำลังสำคัญให้กับมิลล์วอลล์ ตามเดิม

โดยในฤดูกาล 1987-88 ทีมก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเตะในดิวิชั่น 1 ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของอังกฤษในเวลานั้นและเป็นครั้งแรกด้วย

ในปี 1991 เชอริงแฮม ในวัย 25 ปีถูกขายให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ เขาทำผลงานได้ดีและอยู่กับ “เจ้าป่า” ฟอเรสต์ เพียงฤดูกาลเดียว จนทำให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในปีต่อมา ด้วยค่าตัวราว 2.1 ล้านปอนด์

ซึ่งหลังจากที่ขายเชอริงแฮมออกไป ฟอเรสต์ ก็ตกชั้นทันทีในฤดูกาลต่อมา เนื่องจากไม่สามารถหาตัวแทนของเขาในแนวรุกได้

เขาประสบความสำเร็จอย่างมากกับ สเปอร์ส ในการจับคู่กับ กอร์ดอน ดูรี่, เยอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ และ คริส อาร์มสตรอง โดยเขาทำไปถึง 75 ประตูใน 5 ฤดูกาลในลีกกับ สเปอร์ส จนเขากลายเป็นนักเตะในดวงใจของแฟนๆ ไก่เดือยทองในช่วงกลางยุค 1990

ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือน กรกฏาคม 1997 ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์

ทีม ปีศาจแดง คว้าตัวเขามาแทนที่ตำแหน่งของ เอริค คันโตน่า ที่แขวนสตั๊ดไป โดยเกมแรกกับต้นสังกัดใหม่นั้น เชอริงแฮม ต้องเผชิญหน้ากับทีมเก่าอย่าง สเปอร์ส ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน

ตลอดทั้งเกมเขาถูกแฟนบอลเจ้าถิ่นโห่ใส่ แถมในเกมดังกล่าว เชอริงแฮม ก็ได้โอกาสยิงลูกจุดโทษด้วย แต่ว่าก็พลาดไป แม้ว่าสุดท้ายแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก็ตาม

ชีวิตค้าแข้งของเชอริงแฮมมารุ่งเรืองสุดขีดเอาในฤดูกาล 1998-99 ซึ่งเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมายิงตีเสมอ บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนที่ทีมจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะจนสามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ

ฤดูกาลต่อมา เขาได้รับโอกาสลงเล่นน้อยลง แต่ในฤดูกาล 2000-01 เขาก็กลับมาระเบิดฟอร์มด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร และได้เค้นฟอร์มสุดยอดที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขาออกมา ทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์ลีกได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเขาก็ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากทั้ง 2 สถาบันคือ พีเอฟเอ และจากการโหวตของนักข่าว

จากนั้นด้วยการเข้ามาของ รุด ฟาน นิสเตลรอย บวกกับสัญญาของเขาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็หมดลง ทำให้ เชอริงแฮม ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาออกไปอีก เขาย้ายกลับมาเล่นกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นคำรบสอง แต่ก็เค้นฟอร์มเก่งกลับมาไม่ดีนัก ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับพอร์ทสมัธ, เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด และ โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมาแขวนสตั๊ดในปี 2008
เกียรติประวัติ
มิลล์วอล
ฟุตบอลลีกกรุ๊ปคัพ : 1982–83
ฟุตบอลลีกดิวิชั่นสอง : 2530–88
น็อตติงแฮมฟอเรสต์
ฟูลเมมเบอร์คัพ : 1991–92
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
พรีเมียร์ลีก : 1998–99 , 1999–2000 , 2000–01
เอฟเอคัพ : 1998–99
ชาร์ลิตี้ ชิลด์ : 1997
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 1998–99
อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ : 1999
เวสต์แฮมยูไนเต็ด
ฟุตบอลลีกแชมเปี้ยนชิพรอบเพลย์ออฟ : 2005
ส่วนตัว
-รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก : 2535–93
-เล่นพรีเมียร์ลีกเดือน : ตุลาคม 2000 , สิงหาคม 2003
-ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ : พรีเมียร์ลีก 2000–01
-ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ : 2000–01
-นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ เอฟ ดับเบิ้ลยู เอ : 2000–01
-เซอร์แมตต์บัสบี้นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี : 2000–01
-ค้อนแห่งปีของเวสต์แฮมยูไนเต็ด : 2004–05
-หอเกียรติยศฟุตบอลอังกฤษ : 2552
-ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของมิลล์วอลล์ : 1990–91
-ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : 1994–95

credit : https://champions-speakers.co.uk/

images credit : https://twitter.com/

images credit : https://www.blendspace.com/

images credit : https://www.premierleague.com/

images credit : https://www.footballfancast.com/

images credit : https://www.dailymail.co.uk/

images credit : https://www.planetfootball.com/

images credit : https://www.whufc.com/