ตำนานแข้งชาว อิสราเอล ที่ว่ากันว่าโด่งดังที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอล “ยอสซี่ เบนายูน”

ยอสซี่ เบนายูน แข้งชาว อิสราเอลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพค้าแข้งที่เกาะอังกฤษ หนึ่งในนักเตะของทีมชาติอิสราเอลที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น ยอสซี่ เบนายูน มีชื่อเต็มว่า โยเซฟ ชาย เบนายูน เกิด 5 พฤษภาคม 1980 ดิโมน่า, อิสราเอล เขาคือหนึ่งในนักเตะ ลิเวอร์พูลที่ทำผลงานได้น่าพอใจหลังผ่านไป 1 ใน 3 ของเส้นทางการลุ้นแชมป์ ก็คงจะมีชื่อของ ยอสซี่ เบนายูน มิดฟิลด์ร่างบางจากอิสราเอล รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

เบนายูน ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีทักษะดีที่สุดในพรีเมียร์ชิพ และแม้ว่าจะมีรูปร่างเล็กไปบ้าง แต่เขาก็ได้การเคลื่อนที่ที่ปราดเปรียวมาชดเชย อย่างที่ทราบกันดีว่า ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือลิเวอร์พูล ยึดมั่นกับระบบโรเตชั่น ด้วยเหตุนี้นักเตะหงส์แดงทุกคนจึงต้องพยายามโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม และ เบนายูน ก็มักจะไม่ทำให้เดอะ ค็อป ต้องผิดหวังเมื่อแสดงให้เห็นบ่อยครั้งว่าลูกจ่ายของเขามีประสิทธิภาพมากเพียงใด เช่นเดียวกับการลากเข้าไปยิงประตูเองด้วย

นักเตะวัย 27 ปี มีฉายาในประเทศบ้านเกิดว่า “The Diamond” ที่เปรียบว่าเป็นเหมือนเพชรน้ำงามของวงการลูกหนังยิวซึ่งความสามารถอันเอกอุของเขาทำให้ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติอิสราเอลแบบไร้ข้อกังขา

เบนายูน ฉายแววเก่งมาตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ และเมื่ออายุ 13 ปี เขาก็ได้ลงปกแม็กกาซีนชื่อดังหลายฉบับในประเทศอิสราเอล โดยหลังจากที่เข้าเป็นนักเตะเยาวชนของทีมฮาโปเอล เทล อาวีฟ ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เบนายูน ก็โชว์ฟอร์มเตะตาแมวมองของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมดังของฮอลแลนด์ ที่ได้เชื้อเชิญให้เขาและครอบครัวย้ายไปอยู่แดนกังหันลมขณะที่อายุเพียง 15 ปี

ก่อนวันเกิดครบ 16 ปี เบนายูน ก็กลายเป็นดาวซัลโวในทีมเยาวชนของ อาแจ็กซ์ และเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทีม และนั่นทำให้ อาแจ็กซ์ ตัดสินใจยื่นข้อเสนอนักเตะอาชีพเป็นเวลา 4 ปีให้กับเขา




ทว่า เบนายูน และครอบครัวกลับไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับกรุงอัมสเตอร์ดัมได้ จึงได้ตัดสินใจย้ายกลับมาอิสราเอลหลังจากไปอยู่ที่นั่นเพียง 8 เดือน ขณะที่ สื่อและแฟนบอลในประเทศบ้านเกิดวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เบนายูน ทิ้งโอกาสทองไปอย่างไม่น่าเชื่อ

แม้จะทำได้ถึง 15 ประตูจากการลงสนาม 15 นัดให้กับทีมชุดใหญ่ของ ฮาโปเอล เบียร์ เชว่า แต่นั่นก็ไม่พอที่จะช่วยให้ต้นสังกัดรอดพ้นจากการตกไปเล่นในดิวิชั่น 2 ได้ และทำให้ เบนายูน ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ มัคคาบี้ ไฮฟา มหาอำนาจของอิสราเอล ในปี 1998 และอยู่ที่นั่นจนถึงปี 2002

ฤดูกาล 2000-01 ภายใต้การคุมทีมของอัฟราม แกรนท์ ที่ปัจจุบันเป็นกุนซือของเชลซี เบนายูน เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ ไฮฟา คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอิสราเอลได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และได้รับการรับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ก่อนจะช่วยให้ทีมป้องกันแชมป์ลีกได้ในปีต่อมา


จากนั้น เบนายูน ได้ย้ายไปเล่นให้กับ ราซิ่ง ซานตานเดร์ ในสเปน และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจแฟนบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 2004/05 ที่เขาเป็นหนึ่งในดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร

ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นทั้งในทีมชาติและกับราซิ่ง ทำให้มีหลายทีมให้ความสนใจที่จะคว้าตัว เบนายูน ไปร่วมทีม ซึ่งรวมถึง ซีเอสเคเอ มอสโก, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม และ โบลตัน ก่อนที่จะเป็นทีม “ขุนค้อน” ที่ได้ลายเซ็นต์ของมิดฟิลด์ตัวรุกชาวยิว ไปร่วมทีมในเดือนกรกฏาคม 2005 ด้วยสัญญา 4 ปี มูลค่า 2.5 ล้านปอนด์

เบนายูน มีโอกาสได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ครั้งที่ 125 ซึ่งเจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตาหลัง เวสต์แฮม พ่าย ลิเวอร์พูล ในการดวลจุดโทษหาแชมป์ในปี 2006 หลังเสมอกัน 3-3 เมื่อจบการต่อเวลาพิเศษ และนั่นก็ทำให้แฟนบอลขุนค้อนรักดาวเตะทีมชาติอิสราเอลรายนี้มากขึ้นเพราะได้เห็นถึงความตั้งใจที่จะช่วยให้ทีมประความสำเร็จ

แม้ว่าจะตกลงกับ เวสต์แฮม ว่าจะต่อสัญญาใหม่ออกไปอีก 5 ปีในเดือนพฤษภาคม 2007 แต่หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ติดต่อเข้ามาอย่างเป็นทางการ เบนายูน ก็เปลี่ยนใจ และหันไปซบทีมหงส์แดง ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ (ราว 350 ล้านบาท) ด้วยสัญญา 4 ปี โดยราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือลิเวอร์พูลได้ซื้อตัวมาจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เบนายูน ประเดิมสนามให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรกในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 3 นัดแรก ที่พบกับ ตูลูส จากฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา 6 สัปดาห์หลังจากนั้นเขาก็พังประตูแรกในสีเสื้อเดอะ เร้ดส์ ได้ในเกมที่เอาชนะ เรดดิ้ง 4-2 ในศึกคาร์ลิ่ง คัพ จากเลี้ยงหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงอย่างสวยงาม

จนมาถึงฤดูกาล 2008-2009 ส่วนใหญ่เบนายูนจะไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวจริง 11 คนแรก ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการเข้าสังกัดทีมลิเวอร์พูลของ อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกซ้ายทีมชาติสเปน มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลชอบให้นักเตะชาวสเปนลงเล่น จึงนำ ริเอร่า มาแทนที่เบนายูนไปซะอย่างนั้น

ต่อมา เบนายูน เซ็นสัญญากับเชลซี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2010 โดยเซ็นสัญญาทั้งสิ้น 3 ปี ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านยูโร เขากล่าวถึงความรู้สึกต่อการย้ายทีมในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่า “ผมตื่นเต้นมากที่ได้มาที่สโมสรเชลซีมันเป็นสโมสรใหญ่มากและผมคิดว่ามันเป็นความฝันของผู้เล่นทุกคน ผมหวังว่าเราจะประสบความสำเร็จ”

การย้ายเข้าร่วมทีม สิงห์บลู เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสำหรับเขา เขาไม่สามารถปรับตัวให้เข้าสไตล์ของทีมได้ เขาอยู่ในทีมได้ฤดูกาลเดียวก็โดนปล่อยให้ อาร์เซน่อล ยืมไปใช้งาน 2011-12 ตามด้วย เวสต์แฮม ยืมต่ออีกในปี 2012






ต่อมาในปี 2013 เบนายูน ถูกต้นสังกัด เชลซี ขายต่อไปให้กับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส ทีมแชมเปี้ยนชิพ ถือเป็นการถอยหลังลงคลองทั้งที่โลดแล่นในพรีเมียร์ลีกมา 7 ฤดูกาล นั่นจึงบ่งบอกว่าฟอร์มการเล่นของเขาสู้กับนักเตะหน้าใหม่ไม่ได้เลย

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2014 มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า เบนายูน จะกลับมาที่ มัคคาบี้ ไฮฟา ด้วยข้อตกลงสองปีมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทว่าจากการกลับมารังเก่าด้วยอายุอานามที่มากขึ้น รวมถึงสภาพร่างกายที่โรยราลง เบนายูน ไม่ได้เป็นดาวเด่นอีกต่อไปที่นั่น นักเตะรุ่นน้องพัฒนาฝีเท้าข้ามหัวเขาไปหมดแล้ว มันหมดยุคแข้งรุ่นเก่าที่เก๋าเกมไปโดยปริยาย และในที่สุดเดือนเมษายน ปี 2019 เบนายูน ประกาศอำลาวงการฟุตบอลไปในที่สุด

เกียรติประวัติ
มัคคาบี้ ไฮฟา
อิสราเอลพรีเมียร์ลีก : 2000-01, 2001–02
อิสราเอล สเตท คัพ : 2015–16
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
รองแชมป์เอฟเอ คัพ: 2005–06
เชลซี
ยูฟ่ายูโรปาลีก : 2012–13
ส่วนตัว
นักเตะยอดเยี่ยม ประเทศอิสราเอล แห่งปี : 2000–01

images credit : https://www.eurosport.com/

images credit : https://www.zimbio.com/

images credit : https://www.marca.com/

images credit : https://www.zimbio.com/

images credit : https://www.dailymail.co.uk/

images credit : https://talksport.com/

images credit : https://www.planetfootball.com/

images credit : https://www.liverpool.com/

images credit : https://www.jewishnews.co.uk/

images credit : https://theshortfuse.sbnation.com/

images credit : https://www.theguardian.com/